บางครั้งการกระทำของตัวเราก็เหมือนดั่งคนขาดสติ ทำในสิ่งที่เคยผิดพลาดมาจนกลายเป็นความซ้ำซากและน่าเบื่อหน่ายในชีวิต ทุก ๆ ครั้งของการกระทำแล้วรู้สึกถึงความเสียดาย เสียใจและผิดหวัง เรามักจะบอกตนเองอยู่เสมอว่า เราไม่ควรที่จะทำอีกและหนีห่างจากมัน แต่ด้วยกิเลสและความมักได้ทำให้เผลอพลั้งไปจนตกอยู่ในความประมาทและรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของตนเองทุก ๆ ครั้ง การเรียกสติกลับคืนมาทำได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นหรือ หรือว่าชีวิตยังเข้าไม่ถึงและยังมองไม่เห็นสัจจธรรมที่เป็นอยู่ คงต้องยอมรับความเป็นตัวตนของตนเอง สำรวจตนเอง และฝึกตนเองใหม่เพื่อที่จะก้าวต่อไปให้มั่นคง ไม่มีคำว่าสายสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่ และแน่นอนว่าหนทางข้างหน้าก็ยังมีหวัง ขอเพียงอย่าท้อและสร้างกำลังใจให้กลับตนเอง อย่าหวนนึกถึงแต่เรื่องราวในอดีตที่เคยผิดพลาด เพราะนั่นไม่ใช่หนทางที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่กลับจะให้ตัวเราเองนิ่งอยู่กับที่ หรือเกินเลยไปกว่านั่น คือ ก้าวถอยหลัง
ผมยอมรับอย่างไม่อายว่า ผมก้าวถอยหลัง ถอยเสียจนจะไม่มีที่จะให้ก้าวต่อไป ผมอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อบ่งบอกถึงชัยชนะที่เราก็สามารถสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองได้ แต่จะมีหรือเปล่าสำหรับหนทางนั้นที่มันยังมืดมนอยู่ ณ ขณะนี้วันนี้ผมคงต้องขอเรียกสติตัวเองกลับมาก่อน และไตร่ตรองในบางสิ่งบางอย่างให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อที่จะไม่ก้าวถอยหลังอีก
ผมรู้ดีครับว่า หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่เข้าใจที่ผมเขียน เพราะมันเป็นอารมณ์ที่อยู่ในใจลึก ๆ ที่อยากจะระบาย และสะกดตัวเองให้มีสติ เผื่อวันใดวันหนึ่งผมพลาด หรือประสบผลสำเร็จ ผมจะไม่ลืมระลึกถึงบทความนี้ที่คอยสร้างให้ผมมีสติขึ้นมา
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกแบบตรงไปตรงมาได้อย่างไร ว่าอะไรที่ผมกำลังถอยหลัง ว่าอะไรที่ทำให้ผมขาดสติ แต่ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า หลาย ๆ คนก็คงจะเป็นเหมือนผม คือ ก้าวถอยหลังอย่างขาดสติเช่นกัน ถ้าเรารู้ตัวเราดีแล้วก็ขอให้หยุดและเริ่มก้าวต่อไปข้างหน้ากันเถอะ อย่างน้อยก็ยังมีผมเดินไปพร้อม ๆ กันทุก ๆ ท่านและจะคอยเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คน รวมทั้งตัวผมด้วยเช่นกัน
อย่าลืมน๊ะครับ ถ้าเราไม่มีสติ ปัญญาก็จะยังไม่เกิดด้วยเช่นกัน เหมือนกับสุภาษิตที่ว่า สติมาปัญญาเกิด
ขอให้โชคดีกันถ้วนหน้าครับ
ปล.วันนี้มาแปลก เขียนอะไรไม่รู้เรื่องต้องขออภัยด้วยครับ

0 ความคิดเห็น:
Post a Comment