Thursday, June 30, 2011

กิจการร้านกาแฟสด

มีโอกาสไปทำธุระที่เมืองทองธานิช่วงเช้าของวันที่ 29 มิถุนายน 2554 ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษ เมื่อเสร็จธุระก็เดินจ้ำไปที่รถเพื่อจะกลับบ้านเหลือบไปเห็นร้านกาแฟสดอยู่ร้านหนึ่ง กลิ่นกาแฟลอยมาเตะจมูกจนต้องเปลี่ยนทิศทางข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อไปลิ้มรสกาแฟ

คาปูชิโน้ เป็นกาแฟที่ผมสั่งกินอยู่เป็นประจำ เหมือนกระเพาหมูสับไข่ดาวยังไงยังงั้น เมื่อได้กาแฟเรียบร้อยแล้วก็จ่ายเงินจำนวน 35 บาท ซึ่งเป็นราคามาตราฐานตามร้านที่ขายอยู่ข้างทางทั่วๆ ไป มีเก้าอี้เจ้าของก็เชิญให้นั่ง เพราะสีหน้าผมไม่ค่อยดีเท่าไร บ่นเล็กน้อยเพราะต้องรอคิวทำธุระอยู่นานพอควร

ผมสนใจเรื่องธุระกิจกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาส คนขายเชิญให้นั่งก็ชวนคุยหลายๆ เรื่อง ถามเขาว่าขายดีไหม เขาบอกว่าประมาณวันละ 40-50 แก้ว วันหนึ่งก็ขายได้ 1,400 - 1,750 บาท คิดที่ราคาแก้วละ 35 บาท คิดแบบตัวเลขกลมๆ ง่ายๆ ก็ตีไปวันละ 1,500 บาท คุยไปซักพักก็รู้ว่าคนขายไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่เป็นลูกจ้าง ค่าจ้างวันละ 250 บาท ถ้าเป็นวันหยุด ไม่แน่ใจว่าเฉพาะวันอาทิตย์หรือเปล่า จะได้ 300 บาท เจ้าของจริงก็จะได้ 1,200 บาท

เห็นร้านอยู่หน้าร้านแห่งหนึ่งก็เลยยิงคำถามต่อมา เช่าหน้าร้านเขาหรือเปล่า คนขายบอกว่าใช่ 6,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นวันอยู่ที่ 200 บาทต่อวัน หักค่าเช่าซ่ะเจ้าของจะได้ 1,000 บาทต่อวัน เดือนละ 3 หมื่นบาท ยังไม่หักต้นทุนกาแฟ

ยังคงเดินหน้าคุยต่อไป ผมยังแปลกใจว่าทำไมลูกจ้างรู้รายละเอียดตั้งหลายอย่าง อย่างเช่น เครื่องชงกาแฟมีที่บดในตัว ราคาอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นบาท ผมถึงกับอุทานออกมาว่า โอ้ว...5 หมื่นเชียว แพงจัง ถ้ารวมซุ้มร้านที่ตกแต่ง และอะไรต่อมิอะไรก็ต้องมีทุนประมาณ 1 แสนบาท

เรื่องของต้นทุนการชงกาแฟต่อแก้ว ผมยังไม่มีตัวเลขว่าราคาขายที่ 35 บาท ต้นทุนจะเท่าไร ในการทำธุระกิจลักษณะนี้ต้องได้กำไรมากกว่าครึ่ง ผมคิดแบบเลวร้ายที่สุดคือ ต้นทุนการชงกาแฟต่อแก้วอยู่ที่ครึ่งหนึ่่งของราคาขาย เพราะฉะนั้นจาก 1,000 บาทที่เจ้าของจะได้ ก็จะเหลือ 500 บาท ตกเดือนละ 15,000 บาท และถ้าการลงทุนในการทำธุระกิจกาแฟอยู่ที่ 1 แสนบาท เพราะฉะนั้น จุดคุ้มทุนจะใช้เวลาหนึ่งปี

ตัวแปรสำคัญอยู่ที่ปริมาณคนซื้อกาแฟต่อวัน ถ้าจะให้ธุระกิจสามารถเติบโตได้ต้องขายได้ไม่น้อยกว่า 100 แก้วต่อวัน แน่นอนว่า เรื่องนี้มันอยู่ที่ทำเล

แค่เอาตัวเลขมาให้ดู การคำนวณจุดคุ้มทุนและประเมินการทำธุระกิจเบื้องต้นเป็นสิ่งจำเป็น ตามความคิดของผมแล้ว ธุระกิจกาแฟน่าจะทำรายได้มากกว่านี้

Monday, June 20, 2011

ช่องทางชำระเงินสมทบประกันสังคม

เรื่องการจ่ายเงินสบทบประกันสังคม เป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างความกังวลอยู่เสมอ เพราะกลัวจะลืมจ่าย ถือว่าเป็นภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่เรื่องหนึ่งของชีวิตเลยก็ว่าได้ ดีหน่อยที่สามารถเดินไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยได้ แต่สิ่งที่ต้องการก็คือการหักเงินจากบัญชีอัตโนมัติ ว่าแล้วก็ค้นหาข้อมูล ก็พบช่องทางชำระเงินสมทบประกันสังคมในหน้าข่าวของสำนักงานประกันสังคมเอง เนื้อความมีดังนี้

"สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพิ่มช่องทางการจ่ายเงินสมทบเพื่ออำนวยความสะดวก แก่นายจ้าง ในการจ่าย เงินสมทบที่หลากหลายวิธีในการชำระเงินที่รวดเร็ว และสะดวกขึ้น โดยจ่ายเงินผ่านทาง สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ ผ่านธนาคาร ธนาณัติ pay at post และ e-payment 


สำนักงานประกันสังคม ได้เพิ่มช่องทางการจ่ายเงินสมทบ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก รวดเร็ว แก่นายจ้างในการชำระเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมทุกๆ วันที่ 15 และ 29 ของเดือน โดยนายจ้างไม่ต้องเดินทางมายังสำนักงานประกันสังคม ซึ่งวิธีการชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคม มี ดังนี้ ชำระเงินสมทบผ่านเคาน์เตอร์ของธนาคาร 3 แห่ง คือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) , ชำระเงินสมทบโดยธนาณัติ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ทุกสาขาทั่วประเทศ , ชำระเงินสมทบที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ (Pay at post) ในโครงการนำร่อง 3 สาขา ได้แก่ สาขาจตุจักร สาขาหลักสี่ และรามอินทรา , และการชำระเงินสมทบผ่าน Internet หรือ e-payment ซึ่งนายจ้างจะต้องทำความตกลงกับทางธนาคาร โดยจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากเพื่อเป็นการหักเงินสมทบ ในการชำระเงิน


หากนายจ้างมีข้อสงสัย สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร 1506 ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดตั้งแต่เวลา 07.00 น. -19.00 น หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th"

ในส่วนที่ขีดเส้นใต้ไว้ก็คือการชำระเงินสมทบผ่าน Internet หรือ e-payment น่าจะเป็นเรื่องที่สะดวกที่สุด แต่คงไม่ใช่การหักเงินอัตโนมัติ ยังคงต้องรอรับคำสั่งจากเราอยู่ ไม่แน่ใจว่าทางธนาคารจะมีบริการหักเงินอัตโนมัติหรือเปล่า ซึ่งถ้าสามารถทำได้เพียงการชำระออนไลน์ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไรสำหรับผม เพราะสิ่งที่ต้องการก็คือ กลัวลืมจ่าย อีกทั้งการทำธุระกรรมทางการเงินบนอินเตอร์เน็ต ผมก็ไม่นิยม

เอาเป็นว่าตอนนี้ก็จำว่าต้องเดินไปจ่ายที่เคาน์เตอร์ธนาคารทุกต้นเดือน ไม่เกินวันที่ 15

 

© 2013 คนตกงาน. All rights resevered. Designed by Templateism

Back To Top