Saturday, February 28, 2009

จะรอ หรือจะเริ่ม คิดเอาเอง

เป็นเพราะความไม่มั่นใจในตนเองว่าจะทำธุรกิจได้ประสบผลสำเร็จหรือเปล่า การเดิมพันครั้งนี้มันช่างสูงนักและไม่อยากผิดพลาด แต่จะมีใครเล่าที่ไม่เคยทำธุรกิจแล้วไม่ผิดพลาด หลายคนวาดฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงอาจจะไม่ใช่ แต่นั่นก็ยังดีเสียกว่าที่ยังไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรเลย

ผมก็ยังคงเป็นเช่นนั้นที่ไม่ต้องการพลาดในทุก ๆ โอกาสที่มี จนเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่าก็ยังไม่สามารถเดินก้าวไปได้ ทุก ๆ วันก็ได้แต่คิด คิด คิด แล้วก็คิด โดยที่ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะได้เริ่มต้นทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ถ้าจะปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านไปมันคงไม่ดีแน่ มีอะไรก็ต้องทำไปก่อน อาจจะต้องอดทนและอึดสู้ รวมทั้งสร้างพละกำลังทั้งกายและใจให้พร้อมที่จะเริ่มต้น แม้จะยังมองไม่เห็นหนทางที่จะประสบผลสำเร็จ แต่อย่างน้อยเราก็ได้เริ่มและสามารถปรับเปลี่ยนอะไรต่าง ๆ ระหว่างการเดินทาง ซึ่งจะดีเสียกว่าให้สิ่งนั้น ๆ เป็นเพียงแค่จินตนาการแล้วก็ตัดพ้อกับตัวเองว่ายังไม่เห็นหนทาง

วันที่หนึ่ง อาจจะต้องรอและอดทน
วันที่สอง อาจจะต้องรอและอดทน
วันที่สาม อาจจะต้องรอและอดทน
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป อาจจะต้องรอและอดทน
หนึ่งเดือนผ่านไป อาจจะต้องรอและอดทน

ยังดีเสียกว่าไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย

ผมจะลุกขึ้นยืนและก้าววิ่งไปอย่างรวดเร็วและจะไม่รอเวลาอีกต่อไป

Friday, February 27, 2009

วังวนแห่งชีวิต จะฝ่าวิกฤติได้อย่างไร

บางครั้งการกระทำของตัวเราก็เหมือนดั่งคนขาดสติ ทำในสิ่งที่เคยผิดพลาดมาจนกลายเป็นความซ้ำซากและน่าเบื่อหน่ายในชีวิต ทุก ๆ ครั้งของการกระทำแล้วรู้สึกถึงความเสียดาย เสียใจและผิดหวัง เรามักจะบอกตนเองอยู่เสมอว่า เราไม่ควรที่จะทำอีกและหนีห่างจากมัน แต่ด้วยกิเลสและความมักได้ทำให้เผลอพลั้งไปจนตกอยู่ในความประมาทและรู้สึกผิดหวังกับการกระทำของตนเองทุก ๆ ครั้ง การเรียกสติกลับคืนมาทำได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นหรือ หรือว่าชีวิตยังเข้าไม่ถึงและยังมองไม่เห็นสัจจธรรมที่เป็นอยู่ คงต้องยอมรับความเป็นตัวตนของตนเอง สำรวจตนเอง และฝึกตนเองใหม่เพื่อที่จะก้าวต่อไปให้มั่นคง ไม่มีคำว่าสายสำหรับชีวิตที่เหลืออยู่ และแน่นอนว่าหนทางข้างหน้าก็ยังมีหวัง ขอเพียงอย่าท้อและสร้างกำลังใจให้กลับตนเอง อย่าหวนนึกถึงแต่เรื่องราวในอดีตที่เคยผิดพลาด เพราะนั่นไม่ใช่หนทางที่จะก้าวไปข้างหน้า แต่กลับจะให้ตัวเราเองนิ่งอยู่กับที่ หรือเกินเลยไปกว่านั่น คือ ก้าวถอยหลัง



ผมยอมรับอย่างไม่อายว่า ผมก้าวถอยหลัง ถอยเสียจนจะไม่มีที่จะให้ก้าวต่อไป ผมอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อบ่งบอกถึงชัยชนะที่เราก็สามารถสร้างขึ้นมาด้วยตัวเองได้ แต่จะมีหรือเปล่าสำหรับหนทางนั้นที่มันยังมืดมนอยู่ ณ ขณะนี้



วันนี้ผมคงต้องขอเรียกสติตัวเองกลับมาก่อน และไตร่ตรองในบางสิ่งบางอย่างให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อที่จะไม่ก้าวถอยหลังอีก



ผมรู้ดีครับว่า หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่เข้าใจที่ผมเขียน เพราะมันเป็นอารมณ์ที่อยู่ในใจลึก ๆ ที่อยากจะระบาย และสะกดตัวเองให้มีสติ เผื่อวันใดวันหนึ่งผมพลาด หรือประสบผลสำเร็จ ผมจะไม่ลืมระลึกถึงบทความนี้ที่คอยสร้างให้ผมมีสติขึ้นมา

ไม่รู้เหมือนกันว่าจะบอกแบบตรงไปตรงมาได้อย่างไร ว่าอะไรที่ผมกำลังถอยหลัง ว่าอะไรที่ทำให้ผมขาดสติ แต่ผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า หลาย ๆ คนก็คงจะเป็นเหมือนผม คือ ก้าวถอยหลังอย่างขาดสติเช่นกัน ถ้าเรารู้ตัวเราดีแล้วก็ขอให้หยุดและเริ่มก้าวต่อไปข้างหน้ากันเถอะ อย่างน้อยก็ยังมีผมเดินไปพร้อม ๆ กันทุก ๆ ท่านและจะคอยเป็นกำลังใจให้ทุก ๆ คน รวมทั้งตัวผมด้วยเช่นกัน

อย่าลืมน๊ะครับ ถ้าเราไม่มีสติ ปัญญาก็จะยังไม่เกิดด้วยเช่นกัน เหมือนกับสุภาษิตที่ว่า สติมาปัญญาเกิด

ขอให้โชคดีกันถ้วนหน้าครับ

ปล.วันนี้มาแปลก เขียนอะไรไม่รู้เรื่องต้องขออภัยด้วยครับ

Tuesday, February 24, 2009

มาตรา 38 ความเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สิ้นสุดลง

วันนี้คงต้องขออนุญาตินำกฎหมายมาให้ดูโดยจะเน้นไปที่มาตรา 38 ซึ่งผู้ประกันตนสิ้นสภาพการจ้างแล้วและยังอยู่ในช่วงประกันตนคือไม่เกิน 6 เดือน หรือมีการส่งเบี้ยประกันสังคมพร้อมเงิืนสมทบด้วยตนเอง ประเด็นหลักก็คงอยู่ที่เงิน 2,000 บาทเหมือนเดิมนั่นแหละครับว่าได้ชัวร์หรือไม่ ซึ่งเมื่อวานผมก็ได้ไปยื่นที่ประกันสังคมเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือ 2,000 บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรออีกระยะหนึ่งเพื่อให้ทางการตรวจสอบความถูกต้อง

ว่าแล้วก็เล่าให้ฟังกันซักนิดถึงขั้นตอนการยื่น(ผมยื่นที่ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี)
  • อันดับแรกต้องตรวจสอบตนเองให้แน่ใจก่อนว่าอยู่ในข่ายที่จะได้รับเงินช่วยเหลือหรือไม่ คือ ยังคงเป็นลูกจ้างอยู่แต่เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท หรือสิ้นสภาพการจ้าง/ลาออกจากงาน และยังอยู่ในช่วงประกันตนในกรณีใดกรณีหนึ่ง
  • ขอเอกสารที่ต้องกรอก จะเป็นกระดาษ A4 เหมือนกันหมดในทุกกรณี แต่ถ้าเป็นกรณีลาออกจากงาน เขาให้เขียนที่มุมหัวกระดาษว่า ม.38 หรือ มาตรา 38 พร้อมกับสถานที่ทำงานที่ตนเองเคยทำอยู่ล่าสุดลงไปด้วย ตำแหน่งใด ตำแหน่งหนึ่งในกระดาษนั้น
  • เตรียมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน รับรองสำเนาถูกต้องพร้อมรายเซ็นต์(รายเซ็นต์จะต้องเหมือนกันกับที่เซ็นต์ในเอกสารการขอเงินช่วยเหลือน๊ะครับ) และไม่ต้องใช้สำเนาสมุดธนาคารแต่อย่างใด แต่ติดตัวไปด้วยก็ดี เผื่อบางที่จะไม่เหมือนกัน
  • หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วก็เดินไปที่ชั้น 3 ห้องทางซ้ายมือเพื่อยื่นเอกสาร ยื่นตามหมายเลขเรียกที่เขาจะแจกที่หน้าห้อง
  • เมื่อยื่นเอกสารแล้ว ก็รอเรียกชื่อเพื่อรับเอกสารกลับ หรือหางเอกสารนั่นเอง เท่านี้ก็กลับบ้านได้แล้วครับ
การไปยื่อนควรจะเผื่อเวลาไว้บ้างน๊ะครับ เพราะคนไปยื่นค่อนข้างเยอะ สำหรับผมใช้เวลาประมาณ 30 - 40 นาทีถึงจะเสร็จสิ้นกระบวนการ ถ้าไม่เข้าใจการกรอกเอกสารส่วนไหนก็ถามเจ้าหน้าที่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ที่นี่ค่อนข้างจะดูแลประชาชนดีน๊ะครับตามความคิดของผม

แนบท้ายอีกนิดสำหรับกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม

ลักษณะ 2
การประกันสังคม
________

หมวด 1
การเป็นผู้ประกันตน
________

มาตรา 33* ให้ลูกจ้างซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบห้าปีบริบูรณ์และไม่เกินหกสิบปีบริบูรณ์เป็นผู้ประกันตน
ลูกจ้าง ซึ่งเป็นผู้ประกันตนอยู่แล้วตามวรรคหนึ่ง เมื่อมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์และ ยังเป็นลูกจ้างของนายจ้างซึ่งอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือ ว่าลูกจ้างนั้นเป็น
ผู้ประกันตนต่อไป
*[มาตรา 33 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537]
มาตรา 34 ให้ นายจ้างซึ่งมีลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ยื่นแบบรายการแสดงราย ชื่อผู้ประกันตน อัตราค่าจ้าง และข้อความอื่นตามแบบที่เลขาธิการกำหนด ต่อ
สำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ลูกจ้างนั้นเป็นผู้ประกันตน
มาตรา 35 ใน กรณีที่ผู้ประกอบกิจการได้ว่าจ้างโดยวิธีเหมาค่าแรงมอบให้แก่บุคคลหนึ่ง บุคคลใดรับช่วงไปควบคุมดูแลการทำงานและรับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง อีก
ทอดหนึ่งก็ดี มอบหมายให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดเป็นผู้จัดหาลูกจ้างมาทำ งานอันมิใช่การประกอบธุรกิจจัดหางานก็ดี โดยการทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วน ใดในกระบวนการผลิตหรือธุรกิจซึ่งกระทำ
ในสถานประกอบกิจการหรือสถานที่ทำงานของผู้ประกอบกิจการและเครื่องมือที่ สำคัญสำหรับใช้ทำงานนั้นผู้ประกอบกิจการเป็นผู้จัดหา กรณีเช่นว่านี้ผู้ ประกอบกิจการย่อมอยู่ในฐานะนายจ้างซึ่งมี
หน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
* ในกรณีที่ผู้รับเหมาค่าแรงตามวรรคหนึ่งเป็นผู้ยื่นแบบรายการต่อสำนักงาน ตาม มาตรา 34 ในฐานะนายจ้าง ให้ผู้รับเหมาค่าแรงมีหน้าที่ปฏิบัติตามพระราช บัญญัตินี้เช่นเดียวกับ
นายจ้าง ในกรณีเช่นว่านี้ให้ผู้ประกอบกิจการหลุด พ้นจากความรับผิดในหนี้เงินสมทบและเงินเพิ่มเพียงเท่าที่ผู้รับเหมาค่าแรง ได้นำส่งสำนักงาน
*[ความในวรรคสองของมาตรา 35 เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2537]
มาตรา 36 เมื่อ นายจ้างยื่นแบบรายการตามมาตรา 34 แล้ว ให้สำนักงานออกหนังสือสำคัญแสดงการ ขึ้นทะเบียนประกันสังคมให้แก่นายจ้าง และออกบัตรประกันสังคมให้แก่
ลูกจ้าง ทั้งนี้ ตามแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 37 ใน กรณีที่ความปรากฏแก่สำนักงานหรือจากคำร้องของลูกจ้างว่านายจ้างไม่ยื่นแบบ รายการตามมาตรา 34 หรือยื่นแบบรายการแล้ว แต่ไม่มีชื่อลูกจ้างบางคนซึ่งเป็น
ผู้ ประกันตนตามมาตรา 33 ในแบบรายการนั้น ให้สำนักงานมีอำนาจบันทึกรายละเอียดใน แบบรายการตามมาตรา 34 โดยพิจารณาจากหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แล้วออกหนังสือ สำคัญแสดงการขึ้น
ทะเบียนประกันสังคมให้แก่นายจ้าง และหรือออกบัตรประกันสังคมให้แก่ลูกจ้างตามมาตรา 36แล้วแต่กรณี
ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่ง เลขาธิการหรือผู้ซึ่งเลขาธิการมอบหมาย จะดำเนินการสอบสวนก่อนก็ได้
มาตรา 38 ความเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 สิ้นสุดลงเมื่อผู้ประกันตนนั้น (1) ตาย (2) สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง * ในกรณีที่ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างตาม (2) ได้ส่งเงินสมทบครบ ตามเงื่อนเวลาที่จะก่อให้เกิดสิทธิตามบทบัญญัติในลักษณะ 3 แล้ว ให้ผู้นั้น มีสิทธิตามบทบัญญัติใน หมวด 2 หมวด 3 หมวด 4 และหมวด 5 ต่อไปอีกหกเดือน นับแต่วันที่สิ้นสภาพการเป็นลูกจ้างหรือตามระยะเวลาที่กำหนดเพิ่มขึ้นโดยพระ ราชกฤษฎีกาซึ่งต้องไม่เกินสิบสองเดือนนับแต่วันสิ้นสภาพ การเป็นลูกจ้าง *[ความในวรรคสองของมาตรา 38 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2542]
มาตรา 39* ผู้ ใดเคยเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 โดยจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสอง เดือน และต่อมาความเป็นผู้ประกันตนได้สิ้นสุดลง ตามมาตรา 38(2) ถ้าผู้นั้น
ประสงค์ จะเป็นผู้ประกันตนต่อไป ให้แสดงความจำนงต่อสำนักงานตามระเบียบที่เลขาธิการ กำหนดภายในหกเดือนนับแต่วันสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
จำนวน เงินที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบที่ผู้ประกันตนตามวรรคหนึ่งต้องส่งเข้า กองทุนตามมาตรา 46 วรรคสอง ให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ทั้งนี้
โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจในขณะนั้นด้วย
ให้ผู้ประกันตนตามวรรคหนึ่งนำส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเดือนละครั้ง ภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดไป
ผู้ ประกันตนตามวรรคหนึ่งซึ่งไม่ส่งเงินสมทบหรือส่งไม่ครบจำนวนภายในเวลาที่ กำหนดตามวรรคสาม ต้องจ่ายเงินเพิ่มในอัตราร้อยละสองต่อเดือนของจำนวนเงิน สมทบที่ยังมิได้
นำส่งหรือของจำนวนเงินสมทบที่ยังขาดอยู่นับแต่วันถัดจากวันที่ต้องนำส่งเงิน สมทบ สำหรับเศษของเดือนถ้าถึงสิบห้าวัน หรือกว่านั้นให้นับเป็นหนึ่ง เดือน ถ้าน้อยกว่านั้นให้ปัดทิ้ง
*[มาตรา 39 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537]
มาตรา 40 บุคคล อื่นใดซึ่งมิใช่ลูกจ้างตามมาตรา 33 จะสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนตามพระราช บัญญัตินี้ก็ได้ โดยให้แสดงความจำนงต่อสำนักงาน
หลัก เกณฑ์ และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทนที่จะได้รับตาม มาตรา 54 ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนให้ตรา เป็นพระราช
กฤษฎีกา
มาตรา 41* ความเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 สิ้นสุดลงเมื่อผู้ประกันตนนั้น
(1) ตาย
(2) ได้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 อีก
(3) ลาออกจากความเป็นผู้ประกันตนโดยการแสดงความจำนงต่อสำนักงาน
(4) ไม่ส่งเงินสมทบสามเดือนติดต่อกัน
(5) ภายในระยะเวลาสิบสองเดือนส่งเงินสมทบมาแล้วไม่ครบเก้าเดือน
การ สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนตาม (4) สิ้นสุดลงตั้งแต่เดือนแรกที่ไม่ส่งเงิน สมทบ และการสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนตาม (5) สิ้นสุดลงในเดือนที่ส่งเงิน สมทบไม่ครบ
เก้าเดือน
*ในกรณีที่ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพความเป็นลูกจ้าง ตาม (2) ได้ส่งเงินสมทบตามเงื่อนเวลาที่จะก่อให้เกิดสิทธิตามบทบัญญัติใน ลักษณะ 3 แล้ว ให้ผู้นั้นมีสิทธิตามบทบัญญัติใน
หมวด 2 หมวด 3 หมวด 4 และหมวด 5 ต่อไปอีกหกเดือนนับแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
*[ความในวรรคสามของมาตรา 41 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2542]
มาตรา 42 เพื่อ ก่อสิทธิแก่ผู้ประกันตนในการขอรับประโยชน์ทดแทนตามบทบัญญัติลักษณะ 3 ให้นับ ระยะเวลาประกันตนตามมาตรา 33 และหรือมาตรา 39 ทุกช่วงเข้า
ด้วยกัน
มาตรา 43 กิจการ ใดที่อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัตินี้ แม้ว่าภายหลังกิจการนั้นจะมีจำนวน ลูกจ้างลดลงเหลือน้อยกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ก็ตาม ให้กิจการดังกล่าวอยู่
ภาย ใต้บังคับพระราชบัญญัตินี้ต่อไปจนกว่าจะเลิกกิจการ และให้ลูกจ้างที่เหลือ อยู่เป็นผู้ประกันตนต่อไป ในกรณีที่กิจการนั้นได้รับลูกจ้างใหม่เข้าทำ งาน ให้ลูกจ้างใหม่นั้นเป็นผู้ประกันตนตาม
พระราชบัญญัตินี้ด้วย แม้ว่าจำนวนลูกจ้างรวมทั้งสิ้นจะไม่ถึงจำนวนที่กำหนดไว้ก็ตาม
มาตรา 44* ใน กรณีที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อความในแบบรายการที่ได้ยื่นไว้ต่อสำนักงาน เปลี่ยนแปลงไป ให้นายจ้างแจ้งเป็นหนังสือต่อสำนักงานตามระเบียบที่เลขาธิการ กำหนด
เพื่อขอเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการ ภายในวันที่สิบห้าของเดือนถัดจากเดือนที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ให้นำความในมาตรา 37 มาใช้บังคับแก่กรณีที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้โดยอนุโลม
*[มาตรา 44 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537]
มาตรา 45 ในกรณีที่หนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียน ประกันสังคมหรือบัตรประกันสังคมสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้ นายจ้างหรือผู้ประกันตนยื่นคำขอรับ
ใบแทนหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียน ประกันสังคม หรือใบแทนบัตรประกันสังคมแล้วแต่กรณีต่อสำนักงานภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลายหรือชำรุดดังกล่าว ทั้งนี้
ตามระเบียบที่เลขาธิการกำหนด

Sunday, February 22, 2009

ขายอะไรผ่านเว็บไซต์ดี?

เวลาผมไปสอน หรือไปเจอกับผู้ประกอบการ หลายๆคนมักจะถามผมว่า หากจะขายสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตหรือเว็บไซต์ ควรจะขายอะไรดี?

ผมเองจะถามกลับว่า คุณมีสินค้าแล้วรึยัง?
หลายคนก็จะบอกว่า มีธุรกิจอยู่แล้ว และต้องการนำธุรกิจหรือสินค้า-บริการเข้ามาสู่ Internet
และอีกส่วนใหญ่จะบอกว่า ยังไม่มีธุรกิจหรือสินค้าเลย แต่อยากจะรู้ว่าขายอะไรผ่านอินเทอร์เน็ต หรือทำ E-Commerce ขายอะไรดี
วันนี้ผมจะมาให้ไอเดียและคำแนะนำว่า สินค้าประเภทไหนที่เหมาะจะขายผ่านเว็บไซต์


ลองมาดูกันนะครับ


1. สินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด
หาก คุณสามารถหาแหล่งสินค้าราคาถูกกว่าท้องตลาด นั้นหมายถึงความได้เปรียบในการขาย เพราะด้วยราคาที่ถูกกว่า นั้นจะช่วยทำให้ผู้ซื้อสนใจและจดจำร้านค้าคุณได้ รวมถึงการบอกต่อไปยังคนอื่นๆได้อีกด้วย
แต่หากคุณขายสินค้าผ่านอินเทอรเน็ตหรือเว็บไซต์เป็นหลัก คุณก็สามารถลดต้นทุนไปได้มากแล้ว เพราะไม่ต้องมาเสียค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน เพราะคุณสามารถทำเองได้หมด ทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสูงเท่ากับร้านค้าทั่วไป
หรือบางคนอาจจะรู้แหล่งสินค้าราคาถูกในท้องถิ่นของคุณ ซึ่งหากสินค้าชิ้นนั้นไปขายที่อื่น ก็จะสามารถขายได้ราคาดีกว่า เช่น คุณอาจจะอยู่จังหวัดขอนแก่น ใกล้แหล่งผ้าไหม คุณก็อาจจะเปิดร้านขายผ้าไหมลวดลายพิเศษ หายาก ผ่านเว็บไซต์ไปยังทั่วประเทศและต่างประเทศก็ได้
นี้คือตัวอย่างคร่าวๆ
ทีนี้ก็ลองมานึกดูสิครับว่า ใกล้ๆตัวคุณมีแหล่งสินค้าราคาถูกอะไรบ้าง ที่สามารถนำมาขายได้

2. สินค้าเฉพาะกลุ่ม
สินค้าที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) โดยไม่ได้เน้นไปที่กลุ่มลูกค้ากลุ่มคนทั่วไป (Mass Market) เช่น สินค้าสำหรับคนอ้วน, สินค้าสำหรับคนท้อง, สินค้าสำหรับแม่, สินค้าสำหรับเจ้าสาว-คู่แต่งงาน, สินค้าสำหรับเกย์ หรือกระเทย เป็นต้น ก็น่าสนใจ
การที่เราจับกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่ม จะทำให้เราสามารถเจาะและเข้าถึงลูกค้าเฉพาะได้ง่ายมาก หากลุ่มลูกค้าได้ง่าย ลูกค้าจดจำคุณได้ง่าย และนั้นหมายถึงโอกาสการขายก็มีมากกว่าการที่เราไปเปิดเว็บไซต์ขายของเหมือน คนทั่วไป
ตลาดกลุ่มนี้จะเป็นตลาดเฉพาะ กลุ่มอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่ถ้าคุณจับและเข้าถึงได้แล้ว ยอดขายน่าจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องครับ

3. สินค้า "ไม่" ยอดนิยม
ลอง หาสินค้าที่ "ไม่ค่อยนิยม" ลองมาขายดู เพราะส่วนใหญ่เว็บไซต์ต่างๆ ชอบขายสินค้าที่ "นิยม" ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันในสินค้าประเภทนี้มาก ทำให้โอกาสสินค้าของคุณจะเป็นที่รู้จัก เป็นได้ยาก
แต่หากคุณเน้นไปที่ สินค้าไม่เด่น ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักได้ง่ายกว่า เช่น เปิดเว็บไซต์ขายเทปเพลงเก่า พระเครื่อง รุ่นที่ไม่ค่อยมีคนนิยม

4. สินค้าไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน
สินค้าบางอย่างผู้ซื้อไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน เพราะอาจจะมีความอาย หรือไม่ต้องการให้ผู้ขายรู้จักหรือเห็นหน้า
ดังนั้นการซื้อผ่านเว็บไซต์ หรืออินเทอร์เน็ต ดูจะเป็นช่องทางที่หลายๆคนเลือกใช้ในการซื้อสินค้าลักษณะนี้ เช่น สินค้าเกี่ยวกับเรื่องเพศ, ถุงยางอนามัย, อุปกรณ์หรือเครื่องมือต่างๆ, ชุดชั้นใน Sexy เป็นต้น

5. สินค้ามีสไตล์เฉพาะตัว (Unique)
หากสินค้าหรือบริการของคุณ มีความเฉพาะตัว แตกต่าง ไม่เหมือนใคร (Unique) ก็สามารถขายได้ดีเช่นกัน เพราะลูกค้าไม่สามารถหาซื้อที่อื่นๆได้นอกจากของคุณเท่านั้น เช่น เสื้อผ้า ลายผ้า ที่มีดีไซน์เฉพาะตัว, สินค้า Handmade ประเภทต่างๆ
แต่ต้องสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า สินค้าของเราเป็นของดี มีคุณภาพ เพราะสินค้าลักษณะนี้ ส่วนใหญ่ลูกค้าจะไม่รู้จักมาก่อน หรือไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน
ดังนั้นการสร้างความน่าเชื่อถือ การทำให้ลูกค้ามั่นใจ และการให้รายละเอียดสินค้าที่เพียงพอ ครบถ้วน เช่นการมีรูปภาพเยอะๆ การให้รายละเอียดหรือคำอธิบายสินค้าเยอะๆ หรือมี VDO อธิบายสินค้า ดูน่าจะเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ลูกค้ามั่นใจ และซื้อสินค้าลักษณะนี้ได้ไม่ยาก

6. สินค้าที่มีน้ำหนักเบา
การขายสินค้าที่มีน้ำหนักเบา จะมีความได้เปรียบในด้านการส่งสินค้าให้ลูกค้า เพราะจะส่งได้ง่ายกว่า ประหยัดกว่า โดยเฉพาะสินค้าที่มีขนาดเล็กๆ แต่มีราคา เช่น มีหลายคนๆขายสแตมป์เป็นชุด บางชุดมีราคาหลายพันบาทเลย ส่งง่ายเพราะแค่สอดเข้าซองจดหมายก็ส่งได้แล้ว
ดังนั้นสินค้าบางอย่างที่มีน้ำหนักเบา มีราคาสูง ก็อาจจะช่วยทำให้การค้าขายมีกำไรได้มาก แต่อาจจะต้องให้ความสำคัญกับการขนส่งสินค้าที่มีการลงทะเบียนที่จะช่วยสร้าง ความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้เช่นกัน

7. สินค้าที่มีเรื่องราว
สินค้า หรือของที่มีเรื่องราว มีประวัติประกอบ จะทำให้สินค้าชิ้นนั้นๆ มีความน่าสนใจมากขึ้น เช่น ผมอาจจะขายเครื่องปั้นดินเผา แต่ผมก็มีให้ข้อมูลและประวัติของ เครื่องปั้นดินเผาแต่ละชุดที่ผมขาย เป็นแบบจำลองมาจาก เครื่องปั้นดินเผาสมัยสุโขทัย มีประวัติยาวนาน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะแจ้งในเว็บไซต์ และแพ็กเกจที่ส่งไปให้ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ เครื่องปั้นดินเผาอันนี้มีมูลค่ามากกว่า เครื่องปั้นดินเผาธรรมดาๆ ที่ขายอยู่ทั่วไป
นี้คือข้อดีของสินค้าที่มีเรื่องราวอยู่ด้วย

8. สินค้าที่หายาก
สินค้าที่หายากย่อมมีคนต้องการ แต่เนื่องจากเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆเป็นไปได้ง่าย
ดังนั้นหากคุณขายสินค้าที่หายาก และทำให้คนสามารถหาเจอได้ง่ายๆในอินเทอร์เน็ต เช่น.คนค้นหา (search) เจอได้ง่าย โอกาสการขายก็เป็นไปได้ง่ายๆ
ยกตัวอย่างสินค้า เช่น พระเครื่องเก่าๆ, ของเก่า-ของสะสม ประเภทต่างๆ เป็นต้น

9. สินค้าที่สามารถทำด้วยตัวเอง (Do it yourself - DIY)
หลายๆคนชอบซื้อสินค้าที่สามารถซื้อไปแล้ว ไปทำเองได้ เช่น ชุดถักโครเช่ต์, ชุดทำอาหารง่ายๆ, อุปกรณ์แต่งบ้าน ต่างๆ เป็นต้น ซึ่งสินค้าที่เป็นลักษณะ ทำด้วยตัวเอง มักจะเป็นสินค้าที่ ฝรั่งชอบนิยมซื้อไปติดตั้งหรือทำด้วยตัวเอง
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนที่ช่วยทำให้คุณพอได้ไอเดีย ในการไปคิดต่อว่า เราจะขายสินค้าอะไรดี ผ่านเว็บไซต์ไปยังคนทั่วโลก
แต่อย่าลืมนะครับ สินค้าเป็นเพียงแค่ "องค์ประกอบ" หนึ่งเท่านั้น
การจะขายของบนอินเทอร์เน็ตให้ได้นั้น จะประกอบไปด้วยอีกหลายๆปัจจัยด้วยกัน เช่น ความน่าเชื่อถือ (Trust), การตลาด (Marketing), การรู้จักและรักษาลูกค้า (CRM) และอื่นๆ อีกมาก

ดังนั้นหลังจากคุณหาสินค้าได้แล้ว ก็เริ่มมาทำปัจจัยในการค้าขายออนไลน์ให้สมบูรณ์กันดีกว่าครับ

**** บทความโดย : ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาด ดอท คอม จำกัด / ข้อมูลจากนิตยสาร SMEs Today ฉบับเดือนมกราคม 2552 ******

ที่มา : manager.co.th

พาไปเที่ยวตลาดเช้า สำเพ็ง ตอนที่ 1 แหล่งซื้อของ giftshop ไปขาย

พอดีว่าไปเจอข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บบอร์ดพันทิพเขียนโดยคุณ OL Girl คงต้องขออนุญาติเจ้าของกระทู้นำมาโพสเก็บเอาไว้น๊ะครับ เพราะกลัวว่ากระทู้จะตกไปแล้วข้อมูลนั้นหายไปด้วย

สำเพ็ง ตลาดเช้า คงเป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับหลายๆท่าน ถ้าหลายท่านยังไม่คุ้นก็อาจจะเคยได้ยินแว่วๆ ว่าเวลาไปรับของมาขายให้ไปดูที่สำเพ็ง

สำเพ็งตลาดเช้า จะเริ่มเวลาประมาณ ตีสาม - 7 โมงเช้า ค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกเวลานั้น ตลาดจะวาย แต่ไม่ต้องเสียใจ หรือกลัวไปเก้อ เพราะเวลาทำการปรกติของสำเพ็ง คือ 8.00-17.00 ก็มีของขายเพียบค่ะ

ทำไมต้องไปตลาดเช้า ???

ตลาด เช้าจะมีของหลากหลายมากกว่ากลางวัน เพราะพ่อค้าแม่ค้า ยี่ปั๊วจะนำสินค้ามาวางขายตลอดแนวซอยวานิช 1 ตั้งแต่ต้นซอย จากด้านถนนจักรวรรดิ ไปจนถึงถนนราชวงศ์ (ที่เรียกว่า คิคุย่า เก่า) เชื่อกันว่า น่าจะถูกกว่าเวลาปรกติ อีกอย่างเวลาไปตอนเช้ามืด มันสนุกดี ฮ่าๆ

สินค้า มีอะไรบ้าง ??

ถ้าท่านใดสนใจจะขายของต่อไปนี้ ต้องอย่าพลาดไปตลาดเช้าสำเพ็งค่ะ
- กิ๊บติดผม คาดผม เครื่องประดับผม ตัวหนีบ หรืออะไรที่นิยมในยุคนั้นๆ
- สร้อยคอแบบเกาหลี สร้อยคอลูกปัดแบบที่สาวออฟฟิศชอบใส่
- วิกผม ผมปลอม ปอยผม สำหรับประดับ หูแมว (สำหรับ cosplay ) หูแบบเป็นเขา
- ที่ติดตู้เย็น ดอกไม้ปลอม เครื่องตกแต่งในบ้าน เครื่องแขวน
- ตุ๊กตาโมเดลญี่ปุ่น (อันนี้ต้องเล็งๆดูนะคะ มีหลายร้าน แต่ไม่มากนัก)
- ขนตาปลอม กาวติดขนตา เทคโนโลการตกแต่งขนตาทั้งหลาย มาสคาร่า อายไลเนอร์ ลิปติก แป้งเภสัช แป้งผัดหน้า บรัชออน น้ำหอม ยาทาเล็บ ยาล้างเล็บ ครีมโลชั่น สบู่ แชมพู เครื่องสำอาง-ต่างหูตั้งแต่ คู่ละ 2.50 บาท ไปจนถึงแบบเกาหลี อลังการณ์ดาวล้านดวง
-กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ กระเป๋าโลกร้อน กระเป๋าคิตตี้ กระเป๋าผ้า กระเป๋าพีวีซี
-ที่ ห้อยมือถือ พวงกุญแจ ตั้งแต่ disney เกรดเอมีลิขสิทธิ ไปจนถึงหมีเทดดี้ตัวละ 10 บาท (ถูกมาก หมีเทดดี้ 10 บาท ขยับแขนขาได้ เราเคยเหมามา 20 ตัว มาเล่นที่บ้านซะงั้น )
-คิดตี้ แซนริโอ้ เคโระ ตาโบะ ที่เป็นเครื่องเขียน นาฬิกา กระเป๋า ที่ใส่มือถือ จานชาม รองเท้าแตะ
-เครื่องประดับผมเกาหลี ทุกประเภท
-เครื่องเขียน สมุดปากกา กล่องดินสอ เหลากบ ยางลบ ปากกาเจล บลาๆ อะไรก็ตามที่มีขายในร้านเครื่องเขียน สำเพ็งตลาดเช้ามีแน่นอนค่ะ

จริงๆแล้วน่าจะยังลิสรายการไม่หมด ไว้นึกอันไหนได้อีกจะมาเขียนต่อในภาค 2 นะคะ

สนใจอยากไป สำเพ็ง แล้วมันอยู่ตรงไหน ไปยังไง ?
ตลาดเช้าสำเพ็ง มาง่ายมากค่ะ เริ่มต้นที่ถนนจักรวรรดิ นั่งรถเมล์สาย 8 มาลงป้าย จักรวรรดิ หรือ สายอื่นๆ ดังต่อไปนี้ สาย 4 ที่วิ่งมาจากคลองเตย สาย 7 ที่วิ่งมาจากหัวลำโพง สาย 73 ที่วิ่งมาจากดินแดง รัชดา สาย 43 สนามหลวง สาย 40 จากรามคำแหง สาย 56 จากบางลำภู

ป้ายจักรวรรดิ คือป้ายสุดท้าย ก่อนขึ้นสะพานพระปกเกล้าไปฝั่งธนนะคะ พอลงจากรถเมล์จะเห็นวิวประมาณนี้
ก็เดินเข้าซอยไปเลยค่ะ ชื่อ ซอยวานิช 1 (ถนน วานิช 1 )

ไปทำแผนที่ โซนการเดินมาฝากค่ะ

ตอนนี้ยังนึก content ตอน 2 ไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ถ้าใครสงสัยหรืออยากรู้เกี่ยวกับอะไร ก็ถามไว้ได้ค่ะ เดี๋ยวเสาร์นี้จะไปเดินเล่น

ปล เมื่อก่อนวันจันทร์คนหายจะหยุดเยอะนะคะ ตั้งแต่ กทม เปลี่ยนกฏก็เริ่มๆมีมาขายเพิ่มขึ้น ค่ะ

Saturday, February 21, 2009

นั่งรถเมล์ สำรวจตลาด ภาค 2

กลับมาอีกครั้งตามสัญญา วันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นฤกษ์ดีส่วนตัว คือ ทำตัวให้ว่างสำหรับการเดินทางในวันเสาร์ดังที่ตั้งใจไว้ คราวที่แล้วผมเดินทางวันอาทิืตย์ ไปไหนต่อไหนก็ช่างรวดเร็ว แต่พอเป็นวันเสาร์นี่แสนจะเหนื่อย รถก็ติด แถมอากาศก็ไม่เป็นใจ(ค่อนข้างร้อน) ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าสร้างความอดทนให้กับตัวเองถ้าหากอนาคตข้างหน้าต้องอยู่ ในชะตากรรมที่ต้องตากแดดตากลมเพื่อหาเลี้ยงชีพจะได้มีความอดทนเพิ่มมาหน่อย

วันนี้ ได้ฤกษ์ออกเดินทางประมาณสิบโมงครึ่ง จุดหมายปลายทางคือ สำเพ็งกับประตูน้ำ ก็เริ่มต้นด้วยรถเมล์สายเดิมออกเดินทางจากบ้าน เพื่อไปต่อรถที่อนุสาวรีย์ฯ วันนี้ตั้งใจไว้ว่าจะนั่งรถเมล์ฟรีให้ได้มากที่สุด แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีรถฟรีมาซักที เดินวนไปเวียนมาก็ไปเจอแจกซิมฟรีอีกแต่ไม่เอาครับ ไม่อยากถืออะไร อยากเดินทางตัวเปล่าก็เลยปฏิเสธเขาไป แล้วเวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงเที่ยง สายตาก็เลือบไปเห็นข้าวมันไก่ ดูนาฬิกาอีกทีให้แน่ใจ "เฮีย...ข้าวมันไก่หนึ่งที่ เป็ปซี่ขวด" สั่งและก็กินอย่างรวดเร็ว "คิดเงินครับ" "35 บาท" ว่าแล้วก็จ่ายไป 35 บาท เสร็จแล้วก็ไปรอรถเมล์ต่อ

ก็ รออยู่นานพอสมควร อยากจะนั่งรถเมล์สาย 8 ฟรี เพื่อไปลงสำเพ็ง "เอาว๊ะ...เสียเงินก็ได้" ว่าแล้วก็ขึ้นไปจ่ายไปอีกแปดบาท รถเมล์สาย 8 จะขับผ่านแถว ๆ วัดสระเกศซึ่งจะมีสินค้าประเภทงานไม้ คิดไปคิดมาก็น่าสน เผื่อจะได้ไอเดีย แต่เอาไว้ก่อนดีกว่า ว่าแล้วก็จรจากไป ก่อนจะถึงสำเพ็งคนขับรถพูด "ถึงแล้วคร้าบ แหล่งของถูก" คลองถมนี่เอง เอ๊ะ เอ๊ะ เอาไง ผมลงที่นี่ดีกว่า เดินผ่านคลองถมหน่อยไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็เดินผ่านอย่างรวดเร็วพร้อมกับสังเกตุสินค้ารอบข้างไปเรื่อย ๆ

เดินดูของที่คลองถมไปได้ซักระยะหนึ่ง นั่นไง ปอเปี๊ยะขาหมู "เฮีย...ขอหนึ่งที่ น้ำเก็กฮวยด้วย" นี่แหละครับของมันเคย และก็ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่มีผิด ถ้าใครที่ยังไม่เคยไปกินปอเปี๊ยะขาหมูร้านนี้ ผมก็ขอแนะนำ เฮ้ย นี่มันเว็บแนะนำร้านอาหารหรือเนี๊ยะ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศกันหน่อย คือร้านนี้จะอยู่ระหว่างถนนเจริญกรุงกับถนนเยาวราช(ไม่แน่ใจว่าชื่อถนน เยาวราชหรือเปล่า จำไม่ค่อยได้) เอาเป็นว่า อยู่แถว ๆ วัดตึกน๊ะครับ ตรงข้ามกับประตูวัด จะเป็นเก้าอี้นั่งไม่มีโต๊ะ ไม่มีช้่อนให้ มีแต่ตะเกียบอย่างเดียว

หลังจากซัดปอเปี๊ยะเรียบร้อยแล้ว ก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปสำเพ็งทันที ผมเดินไปทางถนนราชวงศ์ แล้วก็เดินเข้าซอยสำเพ็งไปทางเยาวราชก่อน เพราะทางฝั่งนั้นของจะเยอะกว่า แค่ปากซอยผมก็ถึงกับอ้าปาก ตาค้างตั้งนาน ผมว่า ของที่นี่ถูกมากถ้าเป็นราคาขายส่ง สินค้าก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ๆ ๆ ๆ ผมใช้เวลาเดินดูค่อนข้างนาน ประมาณ 3 ชั่วโมงน่าจะได้ ผมก็ยังสนใจเป็นพิเศษกับตุ๊กตาโมเดล แต่มีให้ดูไม่มากเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นของสำหรับผู้หญิงซ่ะมากกว่า สำหรับตรงนี้แล้ว ผมก็ขอแน๊ะนำให้ลองไปเดินดูน๊ะครับ เพราะบางอย่างถ้าเราไม่เห็นด้วยตา เราอาจจะคิดอะไรไม่ออก เดินผ่าน ๆ ไปก่อน แล้วคิดไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบร้อน

หลัง จากนั้นผมก็เดินมาอีกฝั่งหนึ่งซึ่งจะทะลุไปทาง "หัวเม็ด" ผมไม่แน่ใจว่าคนแถวนั้นเขายังเรียกกันอยู่หรือเปล่า หรือเรียกรวม ๆ ว่าสำเพ็งกับพาหุรัดเลยมั๊ง เวลาก็ล่วงเลยไปมาก เอ๊ะ สะพานเหล็กก็ไม่ไกล เดินไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว ว่าแล้วก็ขอไปเดินดูของที่สะพานเหล็กหน่อย แต่สรุปได้ว่า ไม่เวิร์คครับ เพราะของส่วนใหญ่จะเป็นขายปลีก และไม่น่าจะนำไปขายแถวตลาดนัดได้ งั้นไปประตูน้ำเลยดีกว่า ยังพอมีเวลา

ผม รอรถเมล์หน้าโรงหนัง แคปปิตอล เก่า ซึ่งเมื่อก่อนจะฉายหนังประเภทศิลปะ(ว่าไปนั่น) เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว กลายเป็นคลองถมติดแอร์อีกที่ไปแล้วครัีบ ผมเดินแว๊ะไปดูหน่อยแล้วก็รอรถเมล์ฟรีเหมือนเดิม มาแล้วครับสาย 25 นั่งฟรีไปสำโรง แต่เราลงแถว ๆ สยามก็พอแล้วค่อยไปต่อรถอีกที จากสยามก็เจอสาย 204 นั่งฟรีเช่นกัน แทบจะไม่เสียเวลารอ ประมาณว่า พอลงรถคันก่อนหน้าปุ๊บก็ขึ้น 204 ปั๊บ

มาถึงแล้วครับประตูน้ำ ที่นี่จะเน้นไปที่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายซ่ะมากกว่า และก็แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของผู้หญิงอีกเหมือนเดิม สมกับที่ผู้หญิงชอบพูดกันว่า ผู้หญิงเป็นผู้สร้างโลก ถ้าโลกนี้ไม่มีผู้หญิงแล้วไซร้ เศรษฐกิจคงทรุดหนัก ก็ส่วนใหญ่แล้วคนที่จับจ่ายใช้สอยจะมีแต่ผู้หญิง ส่วนผู้ชายก็อย่าหวังว่าจะจ่ายอะไรง่าย ๆ เพราะผู้ชายเกิดมา เพื่อเกียรติยศและศักดิ์ศรี ไม่ได้เกิดมาเพื่อใช้เงิน เป็นผู้ทำเงินแต่ไม่ได้ใช้

ผมเดินไปเดินมาอยู่แถว ๆ ประตูน้ำจนเย็น คิดไม่ตกว่า ถ้าเราจะขายของให้ผู้ชายด้วยกันมันจะเวิร์คหรือเปล่า แล้วถ้าจำเป็นต้องขายของสำหรับผู้หญิงแล้ว เราจะต้องทำตัวอย่างไร แต๊วจะแตกหรือเปล่า อุตส่าห์ทำตัวแมนมาทั้งชีวิต แล้วถ้าเป็นขายของสำหรับเด็กล่ะ ผมว่าความคิดนี้เข้าท่ากว่า น่าจะหากินกับเด็กดีกว่า แต่เราต้องไปดูก่อนว่า คนที่เดินตลาดนัดส่วนใหญ่แล้ว เป็นคนวัยไหน ใครเป็นคนซื้อ มีเด็กหรือเปล่า โอ้ย...การบ้านยังมีอีกเยอะกว่าจะเริ่มได้

สรุปว่า ยังคงต้องรอไปเดินดูตลาดนัดอีกซัก 2-3 รอบ เอาแบบสังเกตุการณ์กันไปเลยว่าสินค้าอะไรขายดี ใครจ่ายบ้าง วัยไหนมาเดิน

ขอจบก่อนดีกว่า เพราะเพิ่มกลับมาก็มานั่งเขียนบล็อกทันที(กลัวลืม)

Thursday, February 19, 2009

ลาออกจากงานจะได้เงิน 2,000 บาทหรือไม่

สองพันบาท - 2,000 บาท

เรื่องเงิน 2,000 บาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ยังวนเวียนอยู่ในความคิดของผม เพราะผมก็เป็นคนหนึ่งที่ลาออกจากงานเช่นเดียวกัน แต่ข้อมูลข่าวสารหลาย ๆ ทางทำให้เรารู้สึกสับสนว่าเราจะได้หรือไม่ได้กันแน่ วันนี้ก็มีคนมาบอกผมว่าอีกว่าผมได้ 2,000 บาทแน่นอน ด้วยความอยากรู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ ผมก็ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซด์หลาย ๆ เว็บ และฟังข่าวจากหลาย ๆ สื่อก็พอจะสรุปได้ว่าดังนี้ครับ
  • เงิน 2,000 บาทจะจ่ายให้แก่ผู้ประกันตนเท่านั้น และรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน
  • ผู้ที่ลาออกจากงาน แต่ไม่เกิน 6 เดือน ถือว่ายังอยู่ระยะเวลาที่ประกันสังคมคุ้มครอง มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือด้วยครับ
  • ผู้ที่ลาออกจากงานเกิน 6 เดือนมาแล้ว ไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือครับ(ตรงนี้ต้องเช็คดูให้แน่ใจน๊ะครับว่า ความคุ้มครองในส่วนของประกันสังคมที่คุณมีอยู่หมดอายุเมื่อไร ถ้าไม่เสียเวลามาก ก็ลองไปสอบถามประกันสังคมด้วยตัวเองเลยครับ)
  • ผู้ที่ลาออกจากงานเกิน 6 เดือนมาแล้ว มีสิทธิ์ต่อประกันสังคมได้ แต่ต้องชำระเงินส่วนสนับสนุนด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้ประกันตนที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท เร่งตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งสิทธิ์กับ สปส.ภายในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เพื่อ สปส.จะนำรายชื่อทั้งหมดให้กับธนาคารออกเช็คให้ในวันที่ 11 มี.ค.โดยจะเริ่มจ่ายในวันที่ 26 มี.ค.-8 เม.ย.และมั่นใจว่าเช็คเงินจำนวนดังกล่าวจะถึงมือผู้ประกันตนที่มีสิทธิทุกคน อย่างแน่นอน

Monday, February 16, 2009

คนตกงาน มุมหนึ่งประเทศไทย

หลาย ๆ คนคงเป็นทุกข์กับสถานะการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองจะต้องเผชิญหลังจากต้องอำลาจากงานที่เคยทำ และเพื่อนร่วมงาน ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับสภาพที่คุ้นเคยมานานแสนนานก็ย่อมมีผลต่อจิตใจ แต่...นั่นเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งที่คุณอาจจะรู้สึก ผมอยากให้ทุก ๆ คนเข้มแข็งพอที่จะก้าวเดินต่อไป สำหรับเพื่อนร่วมงานแล้ว ไม่ว่าเราจะยังคงทำงานอยู่ที่เดิมหรือไม่ก็ตาม เพื่อนก็ย่อมยังเป็นเพื่อนอยู่วันยังค่ำ และไม่มีทางแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากว่าคุณจะไม่มีเพื่อนแท้เลย

ความรู้สึกสับสน อ้างว้าง และโดดเดี่ยวก็อาจจะมีมากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่จะสามารถควบคุมมันได้ แต่ไม่ช้าไม่นาน คุณก็จะรู้ว่า คุณเองมีความเข้มแข็งแค่ไหน สำหรับผมก็ยังคงต้องใช้เวลาต่อไปที่จะต้องก้าวเดินถึงแม้ว่าหนทางที่มองไปข้างหน้าจะเลือนลางมากสำหรับตัวผมเอง แต่ก็นั่นแหละ มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่จะสามารถควบคุมความรู้สึก และสถานะการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้

ผมอยากจะบอกว่า ตั้งแต่ผมเกิดมา ผมไม่เคยเห็นใครอดข้าวตายเลยซักคน มีแต่ที่จะคิดทำร้ายตัวเองเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ แต่ผมอาจจะโชคดีกว่าหลาย ๆ คนตรงที่ ผมไม่ค่อยจะมีหนี้สินซักเท่าไร แม้ว่าตอนนี้เงินผมแทบจะไม่มีเลยก็ตาม แต่ผมก็ยังสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ผมก็ใช้วิธีค่อย ๆ คิดกันไปเป็นวันต่อวัน ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง(เรียกว่าไม่ใช้อะไรเลยนอกจากกินเท่านั้น)

สำหรับตัวผมเอง ผมคิดว่า ผมสามารถที่จะดำเนินชีวิตต่อไปได้ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้น รถยนต์ที่ผมใช้ก็คงจะต้องลาจาก ทุกวันนี้ผมเหมือนใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว เพราะผมไม่ได้บอกญาติพี่น้องเลยว่า ผมตกงาน และก็ไม่ค่อยจะมีเงินแล้ว

ผมคงให้เวลาตัวเองได้อีกประมาณหนึ่งเดือน โดยการนั่งคิด นอนคิดว่าเราจะหารายได้จากไหนดี เพราะคงหมดโอกาสที่จะหางานใหม่แน่นอน อย่างน้อยก็อีก 2 ปี(เท่าที่ผมคาดคะเนด้วยตัวเอง)

ตกงานมาแล้วสามเดือนกว่ามันก็ได้เรียนรู้อะไรค่อนข้างเยอะ สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับก็คือ ผมมีเวลาให้กับตัวเองเยอะ รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ รู้ว่าเป้าหมายที่แ้ท้จริงในชีวิตคืออะไร มีเวลาเรียนรู้สังคมภายนอกมากขึ้น เข้มแข็งและก็แกร่งขึ้น และแน่นอนว่า ผมจะไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาที่ถูกลิขิตมาในแบบที่ผมก็ไม่ต้องการ

สุดท้าย ขอให้พระคุ้มครอง คิดดี คิดกุศล ไม่ทำลายตัวเองและผู้อื่น

Sunday, February 15, 2009

หาหนทางอีกครั้ง เพื่อสร้างรายได้

หลังจากที่พยายามหาหนทางในการหาเงินทางอินเตอร์เน็ตมานานแสนนาน ก่อนที่จะตกงานเสียอีก ไม่ว่าจะเป็น pay-per-click รับจ้างดูโฆษณา หรือแม้แต่การติดป้ายโฆษณาจากทางกูเกิ้ลเอง ก็ดูเหมือนมันจะไม่คุ้มค่าเหนื่อยอยู่ดี แล้วก็ไอ้งานหลากหลายที่บอกว่าสามารถรับไปทำได้ที่บ้าน ถ้าไม่ใช่งานผลิต เช่นงานถัก งานประดิษฐ์ หรือทำเทียนสปา อะไรต่าง ๆ ประมาณนี้ ผมรับรองได้ว่า คุณจะไม่ค่อยมีโอกาสได้เงินกลับมาเลย เพราะสร้างรายได้แบบนี้ ก็คือ การทำธุรกิจในลักษณะลูกโซ่ถึงจะมีรายรับที่มากพอจะเขาจะจ่ายให้เรา

เมื่อวานนี้ผมก็เลยลองเล่น ๆ สำหรับรับจ้างดูโฆษณา ก็เห็นหลาย ๆ คนโฆษณาไปต่าง ๆ นานา ว่าได้เงินแล้ว ได้เงินจริง ผมว่าก็ได้เงินจริงน๊ะ แต่น่าจะประมาณ 10 ปี ไม่เชื่อก็ลองดูก็ได้ ตามนี้เลย


ว่าแล้วก็ copy มาจากเว็บอื่น สำหรับวิธีการสมัคร ค่อย ๆ อ่านดูก่อนสมัครน๊ะครับ

วิธีที่ว่านี้คือ

คุณสามารถหาเงิน กับ cashfiesta ได้จริงๆ ซึ่งรายได้ดีและง่ายกว่า
thaiadpoint ไม่โกงเหมือนพวกเว็บ อ่านเมลล์ คลิกโฆษณากรุณาอ่านทำความเข้าใจกันก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ
ให้เราสมัครสมาชิก (โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ)
แล้วเค้าจะให้เราโหลดโปรแกรมของเว็บเค้ามาลงไว้ที่เครื่องเรา (68 KB เอง และไม่เสียค่าใช่จ่ายด้วย)
ผมลองหารายได้ด้วยวิธีนี้นานแล้วนะครับ โดยวิธีเปลี่ยนชั่วโมงเน็ตให้กลายเป็นเงินของเว็บนี้ คือ

1.พอเราโหลดโปรแกรมของเค้ามาไว้ที่เครื่องของเราแล้ว เราก็เปิดโปรแกรมที่ว่านี้ขึ้นมา

2. จะมีช่องให้กรอก Username และ Password ซึ่ง Username และ Password ที่ว่านี่คือ Username และ Password ที่เราใช้สมัครกับเวบของเค้า (ที่ต้องกรอก ก็เพื่อทางเว็บจะเก็บข้อมูลการใช้เน็ตของเราไว้ เพื่อเปลี่ยนเป็นเงิน)

3. เมื่อกรอกรหัสต่างๆ เสร็จแล้ว ก็จะปรากฏหน้าต่างของโปรแกรมที่ว่านี่ขึ้นมา โดยโปรแกรมนี้จะกินเนื้อที่หน้าจอด้านบนของเรา กว้างประมาณ 1 นิ้ว ยาวเท่ากับความกว้างของหน้าจอเรา ซึ่งพื้นที่แค่นี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้งานคอมฯของผมเลย

4. เมื่อโปรแกรมเริ่มทำงาน ก็จะมีป้ายโฆษณาขึ้นมา พร้อมกับมีตัวการ์ตูนกำลังวิ่งอยู่ ตัวการ์ตูนนี้เป็นตัวสำคัญ เพราะมันจะคอยดึงดูดความสนใจของเรา หากมันวิ่งคะแนนการใช้งานเน็ตเราก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่หากมันหยุดวิ่ง คะแนนเราก็จะหยุด ซึ่งเมื่อมันหยุดเราก็ต้องคอยเอาเมาส์ไปคลิ๊กหรือจิ้มที่ตัวมันหรือลากผ่าน ตัวมันกับป้ายโฆษณาก็ได้ เพื่อให้มันวิ่ง เพื่อแสดงว่าเรากำลังสนใจป้ายโฆษณาอยู่นั้นเอง แต่ผมมีวิธีที่ทำให้คุณไม่ต้องคอยมาขยับเมาส์ เพราะผมมีโปรแกรมช่วย โปรแกรมนี้เขียนขึ้นที่ประเทศจีน เพียงแค่เปิดโปรแกรมช่วยขึ้นมา โปรแกรมก็จะทำงานเอง ซึ่งแน่นอนว่าผมแทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย บางวันผมเปิดคอมทิ้งไว้แล้วก็ทำอย่างอื่นไปด้วย โดยที่ไม่ต้องคอยมาสนใจคอมเลย ซึ่งแตกต่างจากการทดลองทำ 2 ช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผมต้องคอยมานั่งขยับเมาส์ตลอด แต่การใช้โปรแกรมจะช่วยได้ดี คือช่วงที่คุณไม่อยู่หน้าจอคอม แต่ถ้าคุณอยู่หน้าจอก็ให้คุณใช้งานปกติของคุณ แล้วก็ทำเป็นสนใจตัวการ์ตูนมันบ้าง ห่างกัน 3-5 นาที

วิธีสมัคร ขั้นตอนการทำ ใช้เวลา 3 - 4 นาทีมีดังนี้

1.เข้าไปที่ Sign Up
2. ขั้นตอนนี้สำคัญมาก จะต้องใส่ทุกช่องเป็นภาษาอังกฤษเพราะเค้าจะส่งเช็คมาให้ตามที่อยู่ ของคุณ
3. Login : ใส่อะไรก็ได้ตามต้องการเพื่อใช้ Login ควรตั้งที่จำง่ายง่ายๆ แล้วจดเก็บไว้
4. Password : ใส่อะไรก็ได้ตามต้องการเพื่อใช้ควบคู่กับ Login แต่ต้อง 4 ตัวขึ้นไปนะครับ
5. Verify Password : ยืนยัน Password อีกครั้ง
6. First Name : ใส่ชื่อจริงของคุณ
7. Last Name : ใส่นามสกุลของคุณ
8. Street Address : ที่อยู่ที่ต้องการรับเช็ค บ้านเลขที่ ถนน ซอย แต่ต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษ เพราะเขา จะส่งเงิน มาตามที่อยู่ที่กรอกไว้ ตัวอย่างเช่น unit 107/48 Charunsanitwong Rd. Tumbol.Bangkhunsri
9. City : ชื่ออำเภอ/เขต
10. Zip/Postal code : รหัสไปรษณีย์
11. State : ไม่ต้องใส่ เพราะเราไม่ได้อยู่ที่อเมริกาหรือแคนาดา
12. Province : จังหวัด เช่น Bangkok
13. Country : Thailand
14. E-mail address : ใส่ E-mail ของเราที่ต้องการติดต่อกับ Web cashfiesta (ควรใส่ที่ใช้อยู่ เพราะเวลาลืมพาสเวิร์ดระบบจะทำงานส่งมาให้ที่เมล์คุณ ควรเก็บพาสเวิร์ดไว้เป็นความลับ )
15. Verify E-mail address : ยืนยัน E-mail เราอีกครั้ง
16. Year of Birth : ปีเกิดของคุณ เป็นปี ค.ศ.
17. Gender : เพศของคุณ
18. Education : ระดับการศึกษา
19. Annual Household Income : รายได้ต่อปีของคุณ
20. ที่ช่อง Industry และ Title ใส่อะไรก็ได้
21. Please tell us why you use Internet : ใช้ Internet ทำอะไรบ้าง เลือก ข้อไหนก็ได้ กี่ข้อก็ได้
22. Please tell us what do you search for or buy online : ถ้าคุณจะซื้อสินค้าทาง Internet
คุณจะซื้ออะไร เลือกข้อไหนก็ได้ กี่ข้อก็ได้
23. ที่ช่อง Payment Information : ใส่ไว้ $50 ดีแล้ว เพราะเค้าถามเราว่าจะให้ส่งเงินมาให้
ตอนได้เงินเท่าไหร่
24. ที่ช่อง Referred by ไม่ต้องใส่
25. คลิ๊กที่ช่อง I have read and understand the Member Agreement ด้วยนะครับ
26. ดูอีกครั้งครับว่าใส่ครบทุกช่องแล้วนะครับ จากนั้นกดปุ่ม Submit Registration ได้ครับ
27. ถ้าเข้าไม่ได้แสดงว่าคุณกรอกข้อมูลผิด จะมีข้อความคำว่า Error สีแดง ขึ้นมาที่ช่องที่เรากรอกข้อมูลผิด ก็แก้ไขให้เรียบร้อย (อาจจะเป็นเพราะว่าไอดีถูกใช้แล้ว ต้องห้ามซ้ำกะคนอื่น หรือพาสเวิร์ดไม่ครบ 4 ตัว หรือ กรอกผิด ให้ย้อนไปทีละอย่าง เริ่ม 1. ใหม่ ) ถ้าเรียบร้อยจะปรากฏข้อความ Now you can start making money with cashfiesta : CLICK HERE (คลิ๊กเลยครับ)

จำ ไว้นะ ว่าจะต้องใส่ให้ครบทุกช่อง เมื่อคุณทำตาม 27 ข้อง่ายๆ ข้างบนแล้ว คุณก็ถือว่าเป็นสมาชิกคนนึงไปแล้ว จากนั้นก็กด submit ไปเลย ถ้าสมัครเรียบร้อยแล้วเข้าไปเช็คเมลล์ แล้วคลิก link ที่เค้าให้มา (ลิงค์ที่ยาวที่สุดนะครับ พอคลิ๊กแล้วสังเกตว่าเข้าหน้า เวบหลักของ Cashfiesta.com หรือไม่ ถ้าเข้าแล้วก็ O.K. คับ แต่ถ้าขึ้นหน้าสีขาวมา ให้สังเกตแถวข้างบน นะครับว่ามี Thank you รึป่าว ถ้ามีก็ O.K คับ แล้วปิดหน้านี้ แล้วเข้าไปที่เวบหลัก คือ www.cashfiesta.com แต่ถ้าไม่มี Thank you ก็คลิ๊กลิงค์ใหม่นะครับ) เพื่อ active เมื่อคลิก link จะมาที่หน้าให้เรา download โปรแกรม เมื่อเข้าสู่หน้าเวบหลัก ให้ล็อกอินเข้าไป ถ้าเข้าได้แสดงว่าคุณสมัครสมาชิกถูกต้องนะครับ)

ขั้นตอนต่อไป ให้คุณ download โปรแกรมของ cashfiesta

1. เข้าไปที่เวบหลัก www.cashfiesta.com
2. ล็อกอิน เข้าสู่ระบบ จะเข้าสู่หน้า Member
3. สังเกตคำว่า Download Fiesta Bar แถวรูป $ สีเขียว 2 ตัว ด้านขวามือบน แล้วคลิ๊ก
4. หน้าเวบจะเปลี่ยนไป สังเกตคำว่า Download ตรงกลางหน้าเวบ แล้วคลิ๊ก
5. จะปรากฏ หน้าต่างให้เลือกที่เก็บไฟล์โปรแกรม จะเลือก O.K. หรือสร้างโฟลเดอร์ใหม่ก็ได้
6. จากนั้นเปิดไฟล์ที่โหลดมาได้ เพื่อ Install
7. เมื่อ Install เสร็จแล้ว ให้เปิดโปรแกรมขึ้นมา
8. ใส่ Login กับ Password อีกครั้งหนึ่ง
9. จากนั้นพื้นที่ด้านบนของจอ คอมพิวเตอร์คุณจะเป็นพื้นที่โฆษณาของบริษัท จะมีตัวการ์ตูนอยู่ด้านมุมบนซ้ายนั่งหลับอยู่ให้ คุณเอาเมาส์มาคลิกหรือลากผ่านโฆษณาเพื่อให้ตัวการ์ตูนเริ่มเดินอยู่กับที่ พยายามคลิกหลายครั้งหน่อย เพื่อปลุกการ์ตูนที่หลับอยู่การเดินของตัวการ์ตูนจะทำให้ค่า ตัวเลขบริเวณ Cashfiesta Point ซึ่งอยู่ด้านบนของคอมคุณ เริ่มเดินให้คุณสะสม ต้องให้การ์ตูนเดินตัวเลขจึงจะเพิ่มขึ้น อย่าให้มันหลับหรือนั่ง การตัวการ์ตูนกำลังเดินอยู่จะทำให้เรามีเงินใน 1 เดือนข้างหน้านี้นะครับ แล้วให้นำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารได้เลย
เสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัคร

โปรแกรมช่วยในการสร้างคะแนน (ใช้งานเมื่อไม่ว่างอยู่หน้าจอคอมนะครับ)

http://www.lmok123.com/easycash/en.zip ของจีน
โหลดมาจะได้ไฟล์ซิป ต้องแตกซิปก่อนนะครับ แล้วเลือกที่ไฟ .exeนะครับ นั่นแหล่ะ คือไฟล์โปรแกรม

ส่วนที่ 1 รายได้โดยตรง ตามระดับ offers ของคุณ มีทั้งสิ้น 8 ระดับ ตัวคูณคะแนนก็จะเพิ่มขึ้นด้วย
ระดับ 0 1,000point จ่าย $0.010
ระดับ 1 1,000point จ่าย $0.040
ระดับ 2 1,000point จ่าย $0.333
ระดับ 3 1,000point จ่าย $0.500
ระดับ 4 1,000point จ่าย $0.660
ระดับ 5 1,000point จ่าย $0.830
ระดับ 6 1,000point จ่าย $1.000
Gold Club 1,000point จ่าย $1.666


***อยากได้ตัวคูณเท่าไหร่ ทำเองนะครับ ระดับสูงยิ่งได้เงินเร็วเท่านั้น ***


***การคำนวณรายได้***


แต้มจะขึ้นทุก 6 วินาที ดังนั้น ใน 1 นาที ได้ 10 แต้ม 1 ชั่วโมง ได้ 600 แต้ม
คิด 1000 แต้ม ต่อ 1.666$ (กรณี member) 1 ชั่วโมงจะได้เงินตามระดับ
วิธี คิด คือ แต้มที่ได้หารด้วย 1,000 จะได้เป็นคะแนนจริง แล้วคูณ $ ตามระดับเพื่อทำเป็นเงินดอลลาร์ จากนั้นคูณ 35 เพื่อทำเป็นเงินไทยเองนะครับ
ข้างล่างคิดที่ 600 แต้ม / ชั่วโมง รายได้จึงเป็นชั่วโมง ทั้งนี้ยังไม่รวมรายได้จากส่วนอื่น ใน 1 วันคุณต้องการเท่าไหร่ก็สุดแล้วแต่คุณครับ

วิธีเพิ่มรายได้ให้แก่คุณ

1.Cashfiesta มีเงื่อนไข Matching Time คือคุณจะได้ Commission ตามชั่วโมงที่คุณ ON LINE เช่นเดือนนี้ คุณ ONLINE 50 ชั่วโมง คุณจะได้ Com จากคนที่คุณแนะนำ ไม่เกินคนละ 50 ชั่วโมง ดังนั้นเล่นให้มากพอและทุก ๆ วันด้วยครับคุณจึงจะได้จากเขามาก ๆ ด้วย
2. ดังนั้นคุณควรแนะนำคนอื่นหรือเพื่อน ๆ คุณ ( REFER ) ทุกๆ วันและมากพอ คุณก็จะได้รายได้ต่อเดือน และคนที่มาร่วมงานกับคุณแบบที่ในการคำนวณด้านล่างนี้ได้เอง คุณจึงต้องทำตามด้านบน ( ข้อ 1.) ด้วยครับคุณถึงจะได้
3. ส่งเช็คมาให้เรา ( จริงๆ แล้วประมาณ 20 วันก็ได้แล้วครับ แต่ธนาคารจะบอกว่า 45 วันไว้ก่อน คุณจะได้ไม่ไปถามเขาบ่อยๆ และเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 203 บาท แล้วแต่ธนาคารนะของไทยพาณิชย์ กับ กรุงไทย เก็บ 203 บาท กสิกรไทย เก็บ$10 ของกรุงเทพ เก็บแพงมาก เกือบ $ 40 ส่วนธนาคารอื่นๆ ต้องลองสอบถามดูเองนะ )
4. ปุ่มกดเงินเรียกเช็ค REQUEST PAYMENT BUTTON -+*( ปุ่มนี้จะปรากฏทุกวันที่ 1-15 ของเดือนเท่านั้นครับ ถ้าเป็นวันที่ 1 ก็ประมาณ 3 ทุ่ม หลังจากนั้นก็จะปรากฏตลอด ถ้ายอดคุณถึง วันที่นับตาม U.S.A. นะครับ) -+ ต้องคอยดูให้ดีด้วยครับว่าเวลาไหนสำคัญนะครับ เพราะว่าถ้าไม่รีบกดปุ่ม เช็คก็จะไม่ส่งให้เรา แถมคุณจะต้องไปกดเอาเดือนหน้าเลยครับ แต่ต้องทำให้ได้ครบที่ 50$ ก่อนนะครับจึงจะเรียกเช็คได้ เพื่อนๆ นักศึกษาหรือทำงานหาเงินค่าเทอมช่วยพ่อแม่กันทางนี้ ถูกกฎหมาย 100%


***มีวิธีทำอยู่ 2 แบบ แต่ขอแนะนำให้เล่นแบบที่ 2***


คือให้เพื่อนสมัครต่อจากเรา แต่ควรทำแบบที่ 1 ควบคู่ไปด้วยจะดีมากเลยครับ เพราะว่าจะได้เป็นไปตามจำนวนที่คิดไว้ด้านล่างนี้


แบบที่ 1 เล่นคนเดียวไม่แนะนำเพื่อน


คุณ เคยคำนวณเงินไหมเราลองมาคำนวณเงินกันดีกว่าว่าจะได้เท่าไร ตัวอย่าง เราเล่นเน็ตทุกวัน ๆ ละ 10 ชม.อย่างต่ำไหม ปรกติ 6 วินาที = 1 คะแนน (POINTS), 1 ชั่วโมง = 3600 วินาที ได้ 600 คะแนน เราสามารถได้คะแนน 6,000 คะแนนต่อวัน 30 วัน เราจะได้ทั้งหมด 180,000 คะแนนทุกๆ 1000 คะแนน เราจะได้ 1.666 เหรียญสหรัฐ(กรณี Gold member นะครับ) เพราะฉะนั้น 180,000 คะแนน ก็ได้ 180x1.666 = 299.88 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยคูณ 35 ( 1 ดอลลาร์ = 35 บาท ) เข้าไปก็เป็น 10,495.80 บาท เห็นไหม? เดือนนึงถ้าเล่น ทุกวันวันละ 10 ชั่วโมงก็ได้ หมื่นบาทแล้ว


แบบที่ 2 เล่นเองและแนะนำเพื่อนด้วย


1. เล่น net บ่อยๆ
2. แนะนำเพื่อนมาสมัครต่อจากคุณ 2 คน ตัวอย่าง เล่น Net วันละ 2 ชม. + นอนอีก 8 จะได้เท่ากับ 10 ชม.พอดีเลย x 30 วัน ( คิดที่ 240 คะแนน/ชั่วโมง x 10 ชม./วัน x 30วัน = 72,000 คะแนน ) และแนะนำเพื่อนให้สมัคร 2 คน เอา 72,000 คะแนนที่คุณจะได้ในแต่ละเดือนนี้ มาหาร / 1000 คุณนำมาคูณด้วย x 1.666 แล้วคูณ x 42 แล้วคุณจะได้เงิน 5,037.984 บาทต่อเดือนเลยนะครับ)

TRICK แนวทางสู่การได้มาของแต้ม ก็มีหลายอย่างครับ
1. เล่น NET บ่อย ๆ ครับ
2. แนะนำเพื่อนมาสมัครต่อจากคุณ ( เพิ่มคะแนนได้อย่างมากเลยครับ ขอแนะนำมากๆๆครับ ดีกว่าทำคนเดียว หลายๆเท่าเลยครับ) แต่ห้าม spam นะ ถ้าเขาจับได้ว่าเรา spam เขาจะยกเลิกการเป็นสมาชิกทันที @ spam คือการส่ง ข้อความไปให้กับคนที่เราไม่รู้จักใน รูปแบบ email,icq หรือพวก โปรแกรม chat ต่าง ๆ ใน chat room ก็ยังถือว่า spam นะครับ ถ้าจะ post ข้อความควรจะ post ในwebboard ที่เขาอนุญาตให้ post ข้อความเกี่ยวกับการโฆษณาหรือการหางานทำได้ -+ถ้าหากคุณสมัครเสร็จแล้วคุณต้องการแนะนำเพื่อน ๆ ให้ สมัครต่อจากคุณให้เปลี่ยนด้านหลัง ?refid= ตามด้วยชื่อ username ของคุณ โดยคุณสามารถนำข้อความทั้งหมดนี้ไปใช้ post ได้ครับ ด้วยการก็อปปี้ (copy) ข้อความทั้งหมดในหน้านี้แล้วนำไปวาง (Paste) ในช่องใส่ข้อความของเวปบอร์ดต่างๆ( webboard )
3.สมัครเป็นสมาชิก WEB ที่ร่วมรายการเล่นเกมส์ www.cashfiesta.com/ [ต้องสมัครนะครับสมัครฟรีแถมได้แต้มเพิ่มอีกดูจากใน ID MEMBER ของเราเองได้ครับ ที่เอาไว้เช็คยอดนั้นแหละครับ เราสามารถดูได้ ทั้ง BONUS หรือว่าเกี่ยวกับสมาชิกของเราด้วยครับ แต่ต้องดูให้ดีอีกทีว่าฟรีรึเปล่าด้วยครับ ]
4. เล่นเกมส์ แต่เกมส์ส่วนใหญ่ที่เห็นมันต้องเสียเงินนะครับ แล้วแถมยังต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิต CREDIT อีกด้วย มันก็เสี่ยงเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะเล่น เวลาคูณกรอกข้อมูลจนไปถึงช่องใส่หมายเลขบัตรเครดิต ถ้าคุณไม่กรอก มันก็แค่จะสมัคร(SUBMIT)ไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง ไม่เสียหายอะไรนะครับ มันก็ขึ้นอยู่กับคุณ แล้วแต่คุณจะเล่นครับแต่ไม่แนะนำให้เล่นนะครับเอาเวลาไปหาคนมาทำงานด้วยจะดี กว่าครับ โดยการโพสต์โปรโมตเวปของคุณเองครับ ( POST PROMOTE)แล้วเวลาไปเจอที่เขามาว่าเวปนี้จ่ายไม่จริงอย่าเพิ่งไปเชื่อนะครับ คุณต้องลองทำดูนะครับคูณจึงจะรู้ พวกที่เขาว่าคือ เขายังไม่เคยทำยอดให้ถึงพอเองครับ ต้องคอยเช็คดูนะครับในเวปของคุณเองว่าอัตราการจ่ายยังอยู่ที่ 1.666 $ อยู่รึเปล่า ถ้าใช่เงินจะ มาได้ไวเองแน่ๆครับ หรือถ้ามันยังไม่ถึง คือมีอัตราจ่ายที่ต่ำมาก เช่น 0.010 $ คุณต้องทำ 5 ล้านคะแนนแบบที่เขาบอกแน่ ๆ เลยนะครับ มีวิธีอยู่ครับ คือลองสมัครSpecial Offes ซึ่งมันก็คือเวปที่ร่วมรายการกับเวป cashfiesta ที่อยู่ในหน้า MEMBERS ใน ID ของคุณเอง หรืออาจอยู่ที่หน้าตัวโปรแกรมดูก็ได้ที่เป็นโฆษณา ทดลองทำคึกษาดูครับ อย่าลืม-+! ถ้าคนหยุดเดิน จงกดให้มันเดินด้วย 5. เมื่อต้องการปิดโปรแกรม cashesta หลังจากใช้งานเสร็จแล้ว ให้กดปุ่มกากบาทที่อยู่มุมบนขวาสุดของป้าย โฆษณา โปรแกรมจะทำการ Update cashfiesta Point ที่เราทำไว้ล่าสุดครับ นี่เป็นธุรกิจทางอินเตอร์เน็ตที่ถูกกฎหมาย ไม่ต้องเป็นกังวลหรือหลบๆซ่อนๆทำหากมีเวลาว่าง สามารถทำงานนี้ได้ก็รีบทำเสียเลย และ ที่สำคัญอย่าโกงโดยเด็ดขาดการสมัครมาหลาย ๆ ครั้ง เขาตรวจสอบได้คอม 1 เครื่อง ต่อ 1 คน ต่อ 1 ครั้ง เท่านั้นไม่ ฉะนั้นจะถือเป็นโมฆะอย่า ลืมสังเกตดูตัวการ์ตูนทางซ้ายของบนบาร์ด้วยนะครับ ให้มันเดินอยู่ตรงมุมไว้ตลอดอย่าให้นิ่ง หรือเดินไปมาบนป้ายโฆษณา ถ้ามันหยุดเดินเงินเราก็หยุดเดินด้วยครับ (หมายถึง ต้องให้มันเดินอยู่ กับที่ตลอดเวลา ห้ามนั่งนิ่งๆ หรือเดินไปมาบนป้ายโฆษณาครับ) หรือสังเกตดูที่รูป $ (ตรงมุมด้านขวาล่างของหน้าจอตรงแถวๆนาฬิกา) ถ้ามันเปลี่ยนเป็นสีแดง เราต้องขยับเมาส์ไปจิ้มที่หัวมันหรือคลิกไปที่ตัวคนให้มันเดินอยู่กับที่ ตลอดเวลาเพราะ Web จะดูว่าเราแค่เปิดเครื่อง เอาไว้เฉย ๆหรือเปล่า ถ้ารูป $ เป็นสีเขียวแสดงว่าทำงานอยู่ ซึ่งแต้มจะเพิ่มขึ้นทุก 15 - 19 วินาที ชั่วโมงหนึ่งจะได้ 240 แต้ม 1000 แต้มจะได้เท่ากับ 1.66 $ ตกแล้วได้ตังค์ ชม.ละ 16-17 บาท เป็นไงคิดว่า มากพอดูเลยใช่มั้ยล่ะครับ

ตรงนี้สำคัญมาก ท่าน นั้นต้องทำ Special offer ด้วยนะท่านจะได้อัตราการออนไลน์มากกว่าเดิมด้วยนะหากท่านไม่ทำเลย ท่านก็จะได้การออนไลน์1000แต้ม / 0.01 $ เท่านั้นเองนะ แต่ Special offer นั้นเราทำได้ไม่กี่อันหรอกเพราะว่าต้องใช้บัตรเครดิตด้วยบางอันเขาก็กำหนด ประเทศด้วยนะ(ดูที่เขียนว่า Thailand หรือ World)

หรือการทำสมาชิก GoldClub (1.66 $ /1000แต้ม)

1. ต้องทำ spaciel offer อย่างน้อย 6 อย่าง
2. ได้แต้มจาก speciel offer 10,000 แต้ม
3. ได้แต้ม Gold Club Points อย่างน้อย133 แต้ม (ดูคำอธิบาย gold Club)
ข้อ ดี มีแต้มขึ้นให้เห็น ๆ เลย จะได้รู้ว่าวัน ๆ นึงเราทำได้กี่แต้ม ยิ่งหาเพื่อนต่อแล้วละก็เรายิ่งได้แต้มเพิ่มเยอะมากและเร็วด้วยสามารถ ทำเงินได้มากถึง 1.66 $ ต่อ 1000 แต้มเลย 1 ชั่วโมงได้ 400 - 600 แต้มเฉพาะคุณนะถ้าบวกเปอร์เซ็นต์ของเพื่อนที่สมัครต่อล่ะอาจเป็นเท่าตัวหรือ หลายเท่าตัว ลองคำนวณดูแล้วกันว่าได้เท่าไหร่

วิธีแนะนำเพื่อน

จำ เป็นอย่างยิ่งเพราะจะทำให้การเปลี่ยนแต้มคุณให้มีมูลค่าสูงขึ้น การที่คุณจะแนะนำเพื่อน ๆ นั้นมีผลสำคัญ ต่อคุณมากครับ ซึ่งหากคุณ มีสายงานสมาชิกที่ต่อจากคุณ หละก็เดือนหนึ่งๆ คุณจะได้รายได้เพิ่มมาจาก การเปิดเองเป็นเท่าตัวเลยนะครับและที่สำคัญสุดๆๆๆเพื่อนจะช่วยให้แต้มGold Club Points ของคุณถึง 133 แต้มคุณจะได้เป็นสมาชิกทอง 1000 แต้ม/1.66$ นี้โดยที่คุณไม่ต้องสมัคร spaciel offer แต้มที่คุณได้จาก Gold Club มีได้หลายทางดังนี้

1. ในวันหนึ่งๆคุณได้เปิดใช้ FiestaBar มากกว่า 30 นาที จะได้แต้ม 1 GP
2. ในวันหนึ่งๆ ถ้าเพื่อนที่สมัครต่อจากคุณได้ 100แต้ม คุณจะได้แต้ม 1 GP
3. ที่สิ้นเดือน คุณได้มากถึง 15 GPs ขึ้นอยู่กับจำนวนเพื่อนคุณในชั้นที่ 1
4. ที่สิ้นเดือน คุณได้มากถึง 15 GPs ขึ้นอยู่กับจำนวนเพื่อนคุณทั้งหมด
5. ที่สิ้นเดือน คุณได้ากถึง 15 GPs ขึ้นอยู่กับจำนวนเพื่อนใหม่ ที่สมัครต่อจากคุณ
6. ที่สิ้นเดือน คุณได้มากถึง 15 GPs ขึ้นอยู่กับจำนวนเพื่อนใหม่ทั้งหมด ที่สมัครต่อจากคุณ
7. ที่สิ้นเดือน คุณได้หรือไม่ได้ GPs ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์ของเพื่อนใหม่ใน level ที่1 ที่เปิดใช้งานในเดือนนั้น

***แต้มทุกแต้ม คิดเดือนต่อเดือนนะครับ ไม่คิดทบเดือน***

*****การขอรับเงิน*****

ก็ เพียง Request แต่จะทำได้เฉพาะวันที่ 1-15 ของในแต่ละเดือนนะครับ ในกรณีที่คะแนนรวมของเราเกิน 50,000 แต้ม(สำหรับระดับ Gold club) คือ ที่ช่อง Value(USD) มีไม่ต่ำกว่า 50 $ นั่นเอง

การใช้งานเวบหลัก www.cashfiesta.com

1. เข้าไปที่เวบ www.cashfiesta.com
2. ล็อกอินเข้าสู่หน้าเว็บ ในหน้า Member มีรายละเอียดดังนี้
กรอบข้อความข้างล่าง welcome-+-+(ชื่อคุณ)-+-+-+. จะแสดงสถานการณ์จ่ายเงินในอัตรา 1,000 แต้ม ต่อ-+-+.(เท่าไหร่ตามระดับคุณ)
ตารางที่ 1 ตารางสะสมยอดทั้งหมด ช่อง Value(USD) คือ จำนวนเงิน ต้องถึง 50$ นะครับถึงจะเบิกได้
ตารางที่ 2 ยอดที่ทำให้เดือนนี้
Points from FiestaBar™: คะแนนที่ทำได้
Bonus points: โบนัส
Points from Referrals: คะแนนจากสมาชิก
Gold Club Points: คะแนนพิเศษ ถึง 133 ได้เป็น Gold Club ทันที
ตารางที่ 3 รายละเอียดเดือนที่แล้ว
ตารางที่ 4 จำนวนสายสมาชิกของคุณในระดับต่าง ๆ
ตารางที่ 5 ตัวคูณในระดับต่าง ๆ ตามที่สมัคร offers ไว้


Wednesday, February 11, 2009

กรรมลิขิต หรือเรากำหนด

บางครั้งก็จะอดนึกสงสัยไม่ได้เลยจริง ๆ ว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเรา ทั้งดีและไม่ดี เป็นกรรมลิขิตหรือว่าเกิดจากตัวเราเอง หลังจากที่ผมค่อย ๆ คิดพิจารณาหาเหตุผลอะไรต่าง ๆ มาประกอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วพบว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นมาจากตัวเราที่เป็นผู้กระทำนั้นทั้งสิ้น แต่การกระทำหรือการแสดงออกของเราไม่ได้เกิดจากพฤติกรรมหรือความต้องการภายในนั้นจริง ๆ เสมอไป มันอาจเป็นช่วงอารมณ์ ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง

แล้วอะไรล่ะที่ทำให้พฤติกรรมเราเปลี่ยนไปได้ในช่วงเวลานั้น ทั้ง ๆ ที่สิ่งแวดล้อมทุกสิ่งทุกอย่างก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิม หรือว่ามันเป็นกรรมลิขิตที่เราเองก็ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้

ผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อว่า ดวงชะตาจะอยู่เหนือการกระทำ แต่ผมก็ชอบที่ดูดวงตัวเองอยู่เป็นระยะ ๆ ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมเรียกว่า กรรมลิืขิต อย่างนั้นแล้ว ความพยายามอะไรต่าง ๆ นานาก็คงไม่ใช่เหตุผลหลักของความสำเร็จเพียงอย่างเดียว จากกราฟชีวิตของผมก็บ่งบอกว่า ปีนี้จะเป็นปีที่จะตกต่ำที่สุดปีหนึ่งสำหรับผม เรียกว่าตกต่ำแบบดิ่งนรก ซึ่งผมก็ทราบจากกราฟชีวิตมาตลอด แล้วจะดีขึ้นจนถึงขีดสุดไปอีกสามปี ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ผมก็คงต้องทำใจไปอีกกว่าครึ่งปี และก็อดทนรอจนถึงวันนั้น

จริง ๆ แล้วการดูดวงก็มีส่วนช่วยอยู่เหมือนกัน เพราะมันก็ช่วยสร้างความหวังให้กับผมและพร้อมที่จะอดทน การดำเนินชีวิตในสถานะการณ์เช่นนี้ สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตุได้ก็คือ ถ้าวันใดผมหมดความหวังอะไรบางอย่าง(มีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องเงิน) ผมก็จะรู้สึกหดหู่ไปทั้งวัน แต่วันใดที่ผมมีความหวังอะไรบางอย่าง ผมก็จะรู้สึกมีความสุขมากในช่วงเวลานั้น

เพราะฉะนั้น สำหรับในช่วงเวลาแย่ ๆ ของเรา ๆ ท่าน ๆ ในตอนนี้ นอกจากกำลังใจที่เราได้รับแล้วยังคงไม่พอ ความหวังก็ยังเป็นสิ่งหนึ่งที่เราต้องค้นหาหรือสร้างขึ้นมา จะเป็นความหวังลม ๆ แล้ง ๆ หรืออะไรก็ช่างเถอะ แต่มันก็สร้างความสุขกับตัวเราไม่ใช่น้อย ไม่เชื่อก็ลองดูน๊ะครับท่าน

Tuesday, February 10, 2009

การตัดสินใจเลือกอาชีพ และแบบทดสอบความพร้อมทางอาชีพ

การที่เราจะเลือกทำอาชีพใดอาชีพหนึ่ง ความรู้ความสามารถและบุคลิกลักษณะของเราก็เป็นตัวบอกว่า เรามีความเหมาะสมกับอาชีพอะไรบ้าง ถ้าหากจะลองผิดลองถูกกันไปเรื่อย ๆ บางคนอาจจะประสบความสำเร็จ แต่หลายคนก็ไม่เป็นเช่นนั้น การสำรวจตัวเองและสำรวจสภาพแวดล้อม เป็นสิ่งแรก ๆ ที่จำเป็นก่อนการเริ่มต้น บางคนอาจจะปรึกษาคนที่มีประสบการณ์ หรือคาดการณ์อะไรไปต่าง ๆ นานา บางคนอยากจะทำอาชีพที่เห็นว่ามีรายได้สูง แต่พอทำจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ในขั้นแรก ๆ อาจจะใช้วิธีการก๊อปปี๊คนอื่นเขามา แต่เมื่อเขาได้เรียนรู้ในสิ่งที่ทำไประยะหนึ่ง เขาก็สามารถสร้างความแตกต่างให้กับสินค้า หรือธุรกิจของเขาได้ ซึ่งจุดนี้นี่เองที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ ลองถามตัวเองดูก่อนว่า เรามีความพร้อมที่จะทำสิ่งนั้น ๆ จริง ๆ หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมทางสติปัญญา ทางจิตใจ แม้กระทั่งทางการเงิน

ผมได้ไปเห็นบทความดี ๆ จาก "กรมการจัดหางาน กองส่งเสริมการมีงานทำ" อยากจะให้ทุก ๆ ท่านลองเข้าไปอ่านดู ซึ่งเขาแบ่งหมวดหมู่ไว้ทั้งหมด 4 หมวดหมู่ด้วยกัน คือ

การตัดสินใจเลือกอาชีพ
บุคคลิกภาพกับการเลือกอาชีพ
แบบทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
การเตรียมความพร้อมในการสมัครงาน

Monday, February 9, 2009

บางครั้งก็ต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ผมไม่ใช่เป็นคนงมงาย หรือเฝ้าวิงวอนร้องขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ก็เป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ที่พอจะเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับเราได้ วันนี้ก็เป็นวันดี คือเป็นวันมาฆะบูชา ผมก็เลยถือโอกาสนี้ที่จะทำบุญตามประเพณีที่ชาวพุทธทุก ๆ ท่านย่อมทำกันเป็นปกติ แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่า วันนี้เป็นวันที่วิเศษกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา นึกย้อนไปถึงคำพูดที่โบร่ำโบราณกล่าวกันไว้ว่า "ไม่มีทุกข์ ไม่เห็นธรรม" มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

บางคนเคยกล่าวกับผมว่า อย่าไปหวนนึกถึงอดีตที่เคยผิดพลาด เพราะอย่างไรเสียเราก็ไม่สามารถที่จะกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก แต่สำหรับผมแล้ว คงจะทำใจให้ลืมได้ยากในบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นกับผม และผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่า คนที่พูดอย่างนั้น ทำได้จริงหรือเปล่า แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อดีของผมก็คือ ผมไม่ได้หมกหมุ่นอยู่กับอดีต แต่ว่าหวนนึกถึงอดีต เพื่อทบทวนบางสิ่งบางอย่างที่เราได้ก้าวพลาดไป และเตือนสติตัวเองอยู่เสมอว่า เราจะไม่ ความผิดพลาดในอดีตสามารถแก้ไขและนำไปใช้ได้ในอนาคต ก็เหมือนกับเป็นประสบการณ์ที่เราได้เผชิญมาโดยตรงด้วยตัวเอง ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เหมือนการเรียนภาษาอังกฤษ ที่ทุก ๆ คนมักจะพูดว่า "learn from mistake" หรือเรียนรู้จากข้อผิดพลาดนั่นเอง หรืออาจจะเป็นคำพูดไทย ๆ ที่่ว่า "ผิดเป็นครู" บางคนอาจจะเป็นถึงครูใหญ่ คณะบดี หรือรมต.กระทรวงศึกษาไปแล้ว เพราะผิดซ้ำซาก และไม่คิดจะแก้ไข

ผมสังเกตุด้วยตัวเองแล้วพบว่า การสวดมนต์ช่วยให้จิตใจเราดีขึ้นจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้สามารถพิสูจน์ได้ง่าย ๆ ก็คือ การสวดมนต์ ก็เหมือนกับการเปล่งเสียงออกมา เหมือนกับการร้องเพลง ซึ่งบางครั้งเราต้องหายใจลึก ๆ หรือหายใจออกยาว ๆ ช่วยให้อ๊อกซิเจน และคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ สามารถเข้าออกได้ลึกและยาวขึ้น อาจจะเป็นทฤษฎีส่วนตัวของผมเองน๊ะครับ นึกได้อีกเรื่องหนึ่งที่น่าจะคล้าย ๆ กันก็คือ การฝึกการหัวเราะของอาจารย์ชื่ออะไรก็จำไม่ได้แล้ว ที่ค่อนข้างจะเป็นที่นิยมในช่วงนี้ ก็เหมือนกับการกำหนดการหายใจ และการขยับกล้ามเนื้อภายใน ทำให้สมองโล่ง สุขภาพจิตใจและร่างกายภายในดีขึ้น อีกอย่างหนึ่งที่เป็นข้อดีของการสวดมนต์ก็คือ การสวดมนต์เป็นเรื่องที่ยากถ้าต้องการสวดให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นชาวพุทธทั้งหลาย ควรจะสวดมนต์ให้ถูกจังหวะ ถูกคำและอักษร ถ้าเราคิดได้อย่างนี้แล้ว ในขณะที่เราสวนมนต์ เราก็จะนึกถึงแค่เรื่องเดียว คือสวดมนต์ให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ความคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ ก็จะหายไป เพราะจิตใจเราจดจ่ออยู่ที่การสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา

อย่างไรเสีย ไม่ว่าโชคชะตา หรือฟ้าจะลิขิตให้เราเป็นเช่นไร แต่อย่างหนึ่งที่ผมอยากจะขอร้องให้ทุก ๆ คนปฏิบัติ นั่นก็คือ การเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น และรู้จักการให้โดยไม่หวังสิ่งอื่นใด ให้เรานึกอยู่เสมอว่า ทุกวันนี้ที่เรามีชีวิตอยู่ คือ กำไรล้วน ๆ เราเกิดมาก็ไม่ได้มีอะไรมาพร้อมนอกจากร่างกาย เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ สิ่งอำนวยความสะดวกคือกำไร ผมเองก็ยังกำไรอยู่อีกเยอะ แต่จะไม่ยอมเท่าทุนเป็นอันขาด

สุดท้าย ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองทุก ๆ ท่านให้อยู่รอดปลอดภัย

บทสรุปสำหรับบทความนี้
1. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และช่วยทำให้เราสบายใจ
2. ไม่มีทุกข์ ไม่เห็นธรรม
3. ผิดเป็นครู หรือ learn form mistake
4. สวดมนต์ช่วยให้จิตใจเราดีขึ้น
5. ชีวิตนี้มีแต่กำไร

อยู่ว่าง ๆ รับจ้างนั่งดูโฆษณาดีกว่า

ความจริงแล้วผมได้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซด์ไทยแอดพอยท์(thaiadpoint)มานานแล้ว เพื่อรับจ้างคลิ๊กดูโฆษณา ถึงรายได้จะน้อยนิด แต่ก็เพื่อไว้ในอนาคต สำหรับเว็บไซด์ประเภทนี้ ก็มีอยู่ค่อนข้าเยอะที่รับจ้างคลิ๊กดูโฆษณา แต่ผมเห็นว่าเป็นเว็บไซด์ไทยน่าจะดีกว่า และค่อนข้างที่จะดูน่าเชื่อถือมากที่สุด(เท่าที่ศึกษาข้อมูลมา) การสมัครก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก ทางเว็บไซด์เขาทำไว้ค่อนข้างดี มีคำอธิบายไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว ผมว่าถ้ามีเวลาว่างแล้วไม่รู้จะทำอะไร ก็ลองศึกษาดูว่า การหาเงินทางอินเตอร์เน็ต นั้นมีวิืธีใดบ้างน่าจะดี แต่ผมขอบอกไว้ก่อนเลยครับว่า ต้องใช้ความพยายาม อุตสาหะค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

วันนี้ผมก็ขอแนะนำเว็บไทยแอดพอยท์ดีกว่า สนใจก็ลองสมัครดู คลิ๊กที่รูปข้างล่างเพื่อสมัครได้เลยครับ


หรือศึกษาจากคีย์เวิร์ด "รับจ้างคลิ๊กดูโฆษณา" อะไรประมาณนี้ หรือจะลอง Search คำว่า หาเงินทางเน็ต ก็ได้ หรือเป็นภาษาอังกฤษ สำหรับคนที่ภาษาอังกฤษแข็งแรงก็คือคำว่า "make money on web" หรือ "make money on internet"

จำเอาไว้น๊ะครับว่า โอกาสยังมีสำหรับพวกเราที่ตกงาน อย่าหยุดคิดหยุดทำ ผมว่า ผมได้อะไรเยอะพอสมควรจากการไม่มีงานทำ ได้มีโอกาสศึกษา เรียนรู้อะไรต่าง ๆ ที่ไม่เคยคิดที่จะรู้มัน ไม่เคยลองศึกษาการทำธุรกิจ สิ่งเดียวที่เป็นการสูญเสียสำหรับคนว่างงาน ก็คือ "เงิน" เท่านั้น ขอให้คิดเสมอว่า เรามีอิสระจากการทำงานประจำแล้ว โอกาสดำเนินชีวิตในรูปแบบใหม่ ๆ ตื่นเต้น และท้าทายสำหรับเราเริ่มแล้ว

สุดท้ายที่จะต้องขอฝากเอาไว้สำหรับทุก ๆ ท่านแบบตรง ๆ เลยก็คือ อย่าหวังว่า สิ่งที่เราคิดที่จะทำจะประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดหวัง คุณอาจจะล้มเหลวอีกครั้งก็ได้ เพราะฉะนั้น ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ มีแผนสำรองเอาไว้ด้วย อย่าทุ่มจนสุดตัว สุดชีวิต ให้ลองทำทีละเล็กทีละน้อย แล้วมันจะค่อย ๆ ดีขึ้นมาเอง

บทสรุปที่ทำเป็นประจำสำหรับบทความนี้คือ
1. หาเงินให้ได้หลาย ๆ ช่องทางเท่าที่จะทำได้ อย่างหน้ามืดตามัว ทำจนไม่ได้หลับได้นอน มีเวลาพักผ่อนบ้าง
2. ทำแผนสำรองไว้เสมอ สำหรับทุก ๆ ธุรกิจที่เรากำลังจะก้าวไป
3. อย่านำเงินทั้งหมดไปลงกับธุรกิจเดียว และอย่าลงเงินทั้งหมดสำหรับหลาย ๆ ธุรกิจที่เราทำ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ หรือศัพท์ทางเทคนิคก็คือ cash flow จะไม่มีนั่นเอง แบบนี้จอดสนิทตั้งแต่เริ่มต้น
4. ทำธุรกิจ ใช่ว่าจะประสบผลสำเร็จอย่างที่คาดหวัง ต้องเผื่อใจไว้บ้าง
5. หมั่นทบทวนธุรกิจ และศึกษาหาอะไรใหม่ ๆ มาสนับสนุนธุรกิจอยู่เสมอ

เอาไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า โชคดีครับ ทุก ๆ ท่าน รวมทั้งตัวผมด้วย

Sunday, February 8, 2009

นั่งรถเมล์ สำรวจตลาด

วันนี้เป็นวันที่ผมตั้งใจเอาไว้ว่าจะนั่งรถเมล์เล่นไปเรื่อย ๆ ตื่นนอนประมาณ 6 โมงได้ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะมาเปิดอินเตอร์เน็ตเพื่ออัปเดทข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทำไปทำมาก็เริ่มขี้เกียจออกไปข้างนอก จนเวลาล่วงเลยไปประมาณเที่ยงครึ่งหลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ก็อาบน้ำอาบท่าซ่ะ ตั้งแต่ตื่นมายังไม่ได้อาบน้ำ แต่แปรงฟันแล้วน๊ะ จัดแจงแต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อยรับกับอากาศร้อน เพราะตั้งใจว่า จะนั่งแต่รถเมล์ฟรี ที่ทางรัฐบาลมีนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชน

อันนี้ก็ต้องขอบ่นกันอีกนิด สำหรับเรื่องรถเมล์ฟรีนี่น๊ะ ให้ตายเถอะ ออกจากบ้านมาครั้งแรกก็เจอกับรถเมล์ฟรี โดยไม่ต้องรอนาน(จังหวะดี) นั่งไปซักระยะ ก็เห็นรถเมล์สายหนึ่งน่าจะไปที่คลองถมได้ ก็เลยลงจากรถคันแรก เพื่อจะขึ้นคันต่อไป บอกตรง ๆ เลยว่า ผมไม่ได้นั่งรถเมล์มาหลายปีแล้ว ก็นึกว่า ทุกคันจะขึ้นฟรีหมด ถ้าเป็นรถคันสีแดง แต่มันไม่ใช่นี่นา เพราะผมรอไอ้คันที่ผมต้องการจะขึ้นต่อมันไม่มาซักที ก็เลยเปลี่ยนใจ ไปอีกคันหนึ่ง สีแดงเหมือนกัน ขึ้นปุ๊บ ก็ไม่รู้ว่า กระเป๋ารถพูดอะไร แต่เห็นกระบอกเก็บเงิน ก็เลยต้องฟอร์มว่ารู้ ก็จ่ายเงินไปซ่ะแปดบาท นั่งไปประมาณสองกิโลก็หมดระยะ เลยเดินต่อประมาณกิโล เพื่อไปขึ้นรถคันต่อไป(เปลี่ยนแผนใหม่อีก)

คราวนี้แหละ ไม่มีพลาด รถเมล์ฟรีต้องมีข้อความว่า "รถเมล์ฟรี เพื่อประชาชน" อะไรประมาณนี้ เพราะผมนึกว่าจะเขียนไว้เฉพาะด้านข้าง แต่หน้ารถมีข้อความอยู่ตัวเบ่อเร้อ ก็เลยบ่นกับตัวเองในใจว่าทำไมซื่อบื้ออย่างนี้ ท่องไว้ในใจ รถเมล์ ๆ ๆ ๆ ท่องอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ไม่โพล่มาให้เห็นซักคัน ก็สรุปไปว่า ถ้าจะนั่งรถเมล์ฟรี ต้องมีความอดทน ทนรอได้ ประมาณนี้

เอาเป็นว่า ผมยอมเสียเงินไปต่อรถที่สนามหลวงดีกว่า เสียเงินอีกหกบาทห้าสิบ รถเมล์เล็กสีเขียว และแล้วผมก็มาถึงสนามหลวงจนได้ แต่ไม่มีรถไปคลองถม ถ้าจะไปคลองถม ต้องเดินไปขึ้นรถอีกประมาณกิโลหนึ่ง ว่าแล้วก็เปลี่ยนใจอีก ไปสาย 9 ก็ได้ ลงพาหุรัด จะได้ดูของหลากหลายเพิ่มไปอีก

สิ่งหนึ่งที่สะดุดตาผมมากก็คือ ชุดเด็กเล็ก เป็นชุดไทย ผมว่า ไม่ค่อยเห็นมีขายตามตลาดนัด ดูแล้วก็น่ารักดี แต่ก็แค่เดินผ่าน ๆ ไม่ได้ถามราคา เพราะผมต้องการดูอย่างเดียว(วางเป้าหมายไว้ว่าจะดู ก็ต้องดู ห้ามถาม) เอาไว้วันหลังถ้ามีโอกาส ก็จะสำรวจราคาอีกทีหนึ่ง สำหรับพาหุรัดเอง ก็จะเป็นในเรื่องของเสื้อผ้า และกิฟช๊อฟต่าง ๆ ผมว่าก็เข้าท่าดีเหมือนกัน ถ้าจะเอามาขาย

ใกล้ ๆ กัน ก็เห็นพระพิคเนศร์องค์โต ผมก็รีบเข้าไปกราบไหว้ทันที ขอให้ผมโชคดี ขอให้ทางสว่างกับผม

ว่าแล้วก็ขอเดินเฉียดสะพานเหล็กซ่ะหน่อย แค่เฉียดไม่ได้เข้าไปลึก ๆ ก็เห็นตุ๊กตาโมเดล ฮืม ไอ้นี่ก็น่าเอาไปขายเหมือนกัน เอาเป็นว่า ขอเก็บเป็นข้อมูลไว้ก่อน

และแล้ว คลองถมก็อยู่ต่อหน้าผม เดินไปได้ซักนิดหนึ่ง เอ๊ะ ปอเปี๊ยะขาหมู ที่เคยกินประจำ(ลืมบอกไปว่า ผมเคยอยู่แถวนั้นมาก่อน ก็เลยรู้แหล่งแถวนั้นทั้งหมดแหละครับ เรียกว่า โตมากับที่นั่นน่าจะได้) "เฮีย ขอหนึ่งที่พร้อมน้ำเก็กฮวย" ก็เสียไปอีกห้าสิบบาท(40+10) คราวนี้ผมก็เดินเป็นระบบเหมือนที่ผมเคยเดินเป็นประจำทุกอาทิตย์สมัยก่อนนั่นแหละครับ เดินไปเดินมา อ้าว ปวดฉี่อีก ก็เลยเสียไปอีก 2 บาท สำหรับที่คลองถม ผมสะดุดตา ปากกาถ่ายวีดีโอ ความจุ 2 GB ราคา 1,500 บาท รับมาน่าจะประมาณ 1,000 บาท(เดาเอา) แต่คงขายไม่ได้หรอกของพรรณนี้ ถ้าขายในห้างก็ไปอย่าง

อีกอย่างหนึ่งที่ผมเห็นคนมุงดูกันเยอะนั่นคือ หนังสำหรับผู้ใหญ่ เฮ้ย ไม่ใช่ เขามุงดู อะไรเกี่ยวกับปืน ชุดพรางตัว ผมเรียกเป็นศัพท์เฉพาะไม่ถูก มันเป็นตลาดเฉพาะ แต่ถ้าเราทำเป็นร้านให้คนรู้จัก ผมว่ารุ่งแน่ ๆ ถ้าซ่อมปืนเป็นด้วยก็จะดี เห็น TV รายการหนึ่งบอกว่า ช่างซ่อมปืน รายได้ประมาณวันละ 3,000 บาท แล้วกำลังเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากด้วย ก็ขอฝากถ้าหากใครที่มีความรู้ก็น่าจะหาหนทางดูน๊ะครับ

สำรวจตลาดเสร็จแล้ว คราวนี้ก็ไปสนองกิเลสต่อดีกว่า ไปพันทิพ.... เดินไปต่อรถเมล์อีก 8 บาท เอ๊ะ ๆ ให้ตายเถอะ ตั้งแต่ สยามพารากอนเปิด ตูยังไม่เคยเห็นเลยนี่ ว่าแล้วก็ขอลงที่สยามดีกว่า ขอเดินผ่านหน่อยก็ยังดี แค่เดินผ่านแต่ไม่ได้เข้าไป เดินไปเดินมา ก็ถึงเซ็นทรัลเวิร์ล ห้างเซ็นแล้ว อย่างนี้เดินต่อให้ถึงพันทิพเลยดีกว่า ว่าแล้วก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ก็มีคนมาขายของตามฟุตบาทเยอะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร

เฮ้อ!!! ถึงพันทิพซ่ะที เดินอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง ตอนนี้ก็หกโมงครึ่งไปแล้ว เห็นทีจะต้องกลับซักที ตอนนี้แหละได้นั่งรถเมล์ฟรีอีกครั้งครับ โชคดีจริง ๆ เรา นั่งไปลงสนามหลวงดีกว่า แล้วก็เดินผ่านสนามหลวง เอ๊ะ เสียงอะไร นปช นี่นา มีเวทีด้วย แต่ไม่ค่อยมีคนฟัง เห็นอยู่ไม่น่าจะเกิน 50 คน แต่เสื้อสีแดง Truth Today กับผ้าสามเหลี่ยม ก็เห็นขายดีอยู่น๊ะ ร้านขายอาหาร ขายน้ำ ก็ยังขายได้ หรือว่าเราจะไปขายของให้ม๊อบดีหว่า ขอขายแค่น้ำก็น่าจะได้เงินเยอะแล้ว เอาเป็นว่า หารถกลับก่อนดีกว่า

จะกลับบ้านจากสนามหลวงก็ต้องนั่งรถสองต่อ คันที่หนึ่งผ่านไป ไม่ฟรี คันที่สอง ไม่ฟรี คันที่สาม ไม่ฟรี ถึงคันที่สิบ ก็ไม่ฟรี เอาเป็นว่า ยอมเสียเงินค่ารถเมล์ก็ได้ ก็ได้รถสาย 33 "นั่นไง ผ่านบิ๊กซี นนท ด้วยนิ มีตลาดนัดด้วย" พอถึงบิ๊กซี ก็ขอเดินดูตลาดนัดอีกนิด เดี๋ยวค่อยกลับบ้านก็ได้ พึ่งทุ่มกว่า ๆ เอง

ขอเข้าห้องน้ำหน่อยดีกว่า ก่อนเข้าห้องน้ำ ก็เดินผ่านร้านก๊วยเตี๊ยวร้านหนึ่ง(ไม่ขอบอกชื่อ ไม่อยากโฆษณาให้) ขอกินซ่ะหน่อย เสียเงินไปอีก 69 บาท หลังจากนั้นก็เดินทางกลับด้วยรถเมล์เสียเงินอีก 8 บาท สรุปว่า ได้นั่งรถเมล์ฟรีสองครั้ง รถเมล์เสียเงินหกครั้ง

สรุปใจความหลัก ๆ
1. สินค้าที่น่าสนใจ คือ ชุดไทยสำหรับเด็ก, กิ๊ฟช๊อฟ, ตุ๊กตาโมเดล, ปืนกับชุดพรางตัว, ขายน้ำให้ม๊อบ
2. ยังไม่ได้สำรวจราคา
3. ยังไม่ได้แหล่งขายของ หรือทำเลตลาดนัดที่ต้องการ
4. ต้องเดินทางสำรวจเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง

ขายของตลาดนัด ธุรกิจทำเงินที่น่าลอง


ตลาดนัด น่าจะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ผมนึกถึงบ่อยที่สุดในการสร้างรายได้ สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการเริ่มต้นก็คือ แล้วจะขายอะไร สำหรับผมเองก็ถือได้ว่า เป็นเรื่องหนักอีกเรื่องหนึ่งสำหรับการขายของตามตลาดนัด เพราะสิ่งที่นิยมขายกันมากตามตลาดนัด ก็คือ เสื้อผ้า เครื่องประดับ อาหารการกิน แล้วก็เครื่องดื่ม แล้วคนที่เดินตลาดนัดส่วนใหญ่เขาซื้ออะไรกัน หรือเดินด้วยวัตถุประสงค์อะไร ถ้าจะลองย้อนถามตัวเองเวลาไปเดินตลาดนัด ผมก็ได้แต่มอง ไม่ค่อยซื้อ และส่วนใหญ่ที่ชอบจับจ่ายใช้สอยน่าจะเป็นผู้หญิงมากกว่า เท่าที่ผมสังเกตุ เพราะฉะนั้น ผมก็สรุปได้ทันทีว่า ผมควรจะทำตลาดสำหรับผู้หญิงมากกว่า สำหรับเครื่องการทำอาหาร หรือเครื่องดื่มไม่ต้องพูดถึง ผมทำไม่ได้อย่างแน่นอน(ทำกินเองน่ะพอได้ แต่ถ้าจะทำขาย ผมว่าไปไม่รอด)

ตอนนี้ผมก็ได้ข้อสรุปแล้วว่า น่าจะลองขายของดู และเน้นที่การขายให้กับสุภาพสตรีเท่านั้น แต่ถ้าจะให้ขายประเภทยกทรง กางเกงใน หรือเครื่องสำอาง ก็คงไม่เหมาะอีก

แล้วอะไรล่ะครับที่จะดึงดูดใจให้บรรดาสุภาพสตรีทั้งหลายยอมควักกระเป๋าเพื่อซื้อของ ๆ เรา คิดไปคิดมา ก็ยังคิดไม่ออก ผมก็เลยขอติดค้างไว้ตรงนี้ไว้ก่อน แต่พอจะสรุปความต้องการของตัวเองได้ดังนี้

1. ขายของตามตลาดนัด แต่ยังไม่มีทำเล และต้องสำรวจว่าที่ไหนดี
2. ราคาค่าเช่าเป็นอย่างไร
3. ช่วงเวลา เปิด-ปิด ตลาดนัด และวันไหนบ้าง
4. เดินสำรวจตลาดนัดเฉพาะจุดที่เราสนใจ แล้วดูว่าที่ตลาดนั้นยังขาดอะไรอยู่ คือไม่ต้องการขายซ้ำกับคนอื่น เพื่อที่จะได้ market share 100 เปอร์เซ็นต์
5. ของที่จะขายสำหรับสุภาพสตรีมีอะไรบ้าง อันนี้คงต้องไปเดินดูแถวประตูน้ำ สำเพ็ง พาหุรัด โบ๊เบ๊

สุดท้าย ผมก็นำข้อมูลตลาดนัดสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรีมาฝาก ในส่วนอื่น ๆ จะพยายามหามาให้ครับ

รวมตลาด / ตลาดนัด จังหวัดนนทบุรี

ศูนย์กลางการค้าและการตลาดที่สำคัญ : อ.เมือง
จัดเรียงข้อมูลตาม ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต. จากน้อยไปมาก จากมากไปน้อย
ลำดับที่ ประเภท ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต.
1 1 ตลาดวัดฉลิมพระเกียรติ 1/100 ม.1 ถ.ท่าน้ำนนท์-วัดโบสถ์ ต.บางศรีเมือง สอต.บางศรีเมือง ทต.บางศรีเมือง
2 1 ตลาดสมบูรณ์ทรัพย์ 50/54/1 ม.1 ต.ท่าทราย สอ.ท่าทราย ท.นครนนทบุรี
3 1 ตลาดสดประชานิเวศน์ 3 123 ม.1 ถ.สามัคคี ต.ท่าทราย สอ.ท่าทราย ท.นครนนทบุรี
4 1 ตลาดสด อ.ต.ก.3 ถ.เลื่ยงเมือง สอ.ตลาดขวัญ ท.นครนนทบุรี
5 1 ตลาดสดท่าอิฐ 94/61 ม. 5 ซ.มณียา ต.บางรักน้อย สอ.บางรักน้อยม.5 อบต.บางรักน้อย
6 1 ตลาดสดเรวดี ซ.เรวดี ต.ตลาดขวัญ งานสธ.เขตเมือง ท.นครนนทบุรี
7 1 ตลาดสดหจก.สมบัติ ต.สวนใหญ่ - ท.นครนนทบุรี
8 1 ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี 2 ต.สวนใหญ่ - ท.นครนนทบุรี
9 1 ตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี 1 ต.สวนใหญ่ - ท.นครนนทบุรี
10 1 ตลาดบางศรีเมือง ถ.ท่าน้ำนนท์ ต.บางศรีเมือง สอต.บางศรีเมือง ทต.บางศรีเมือง
11 2 สินทอง 207/4 ม. 6 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี รพ.พระนั่งเกล้า -


ศูนย์กลางการค้าและการตลาดที่สำคัญ : อ.บางกรวย
จัดเรียงข้อมูลตาม ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต. จากน้อยไปมาก จากมากไปน้อย
ลำดับที่ ประเภท ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต.
1 3 นายปลิววัดพระเงิน 104 ม. 5 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี วัดสุนทร ทต.ปลายบาง
2 3 เทพศิรินทร์ หน้าร.ร.เทพศิรินทร์ ม.1 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางคูเวียง ทต.ปลายบาง
3 3 บุญตา ม.7 กาญจนาภิเษก ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางคูเวียง ทต.ปลายบาง
4 3 วัดส้มเกลี้ยง วัดส้มเกลี้ยง ม.2 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางคูเวียง ทต.ปลายบาง
5 3 วัดสิงห์ วัดสิงห์ ม.7 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางคูเวียง ทต.ปลายบาง
6 3 วัดไทยเจริญ วัดไทยเจริญ ม.3 ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางขุนกอง อบต.บางขุนกอง
7 3 หมู่บ้านสมชาย หมู่บ้านสมชาย ม.6 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ศูนย์สุขภาพฯหมู่บ้านสมชาย ทม.บางกรวย
8 3 วัดศรีประวัติ วัดศรีประวัติ ม.1 ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ปลายบาง ทต.ปลายบาง
9 3 วัดสวนใหญ่ หน้าวัดสวนใหญ่ ม.2 ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี วัดสนามนอก ทม.บางกรวย
10 3 โรงเจโพธิ์ทอง โรงเจโพธิ์ทอง ม.5 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางกรวย ทม.บางกรวย
11 3 วัดโบสถ์ ลานวัดโบสถ์ ม.4 ต.บางคูเวียง อ.บางกรวย จงนนทบุรี วัดหูช้าง ทต.ปลายบาง
12 3 วัดรวก ลานวัดรวก ม.4 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางสีทอง อบต.บางสีทอง
13 3 บ้านรติรมย์ 3 67/9 ม.3 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี บางขนุน อบต.บางขนุน
14 3 วัดบางไกรใน 101 ม.4 ต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี วัดบางไกรใน อบต.บางขุนกอง
15 3 วัดใหม่ผดุงเขต วัดใหม่ผดุงเขต ม.3 ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ศาลากลาง อบต.ศาลากลาง

รายละเอียด :
แหล่งที่มาของข้อมูล : สำนักงานพาณิชย์จังหวัด
ผู้รับผิดชอบ : นางอรดี ศรีสนั่น
ผู้ตรวจสอบข้อมูล : พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ : วันที่ 26 มิถุนายน 2550 เวลา 09:22:25
ความถี่ในการปรับปรุงข้อมูล : ปีละ 1 ครั้ง
ตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อ : วันที่ 11 กันยายน 2550 เวลา 09:30:08
ศูนย์กลางการค้าและการตลาดที่สำคัญ : อ.บางใหญ่
จัดเรียงข้อมูลตาม ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต. จากน้อยไปมาก จากมากไปน้อย
ลำดับที่ ประเภท ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต.
1 1 ตลาดสดบางใหญ่ ม.5 ต.บางเลน - ทต.บางม่วง
2 1 ตลาดกลางบางใหญ่ซิตี้ 88 ม.6 ถ.ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ม.6 ต.เสาธงหิน สอ.เสาธงหิน อบต.เสาธงหิน
3 1 ตลาดเจ้าพระยา 65 ม.10 ต.บางเลน สอ.บางเลน อบต.บางเลน
4 1 ตลาดรุ่งเจริญ 85/13 ม.9 ต.บางเลน สอ.บางเลน อบต.บางเลน
5 2 ตลาดนัดหมู่บ้านอาสาเฮ้าส์ หมู่บ้านอาสาเฮ้าส์ ม.5 สอ.บ้านคลองโยง ทต.บางใหญ่
6 2 ตลาดบางคูลัด 59/1 ม.4 ต.บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สอต.บางใหญ่ เทศบาลต.บางใหญ่
7 2 ม.พระปิ่น 3 ม.15 ต.บางแม่นาง สอต.บางแม่นาง -
8 2 ตลาดนัดซอยวัดพระเงิน ม.8 ต.บางม่วง รพ.บางใหญ่ อบต.บางม่วง
9 2 ตลาดนัดซอยวัดพระเงิน ม.10 ต.บางม่วง รพ.บางใหญ่ อบต.บางม่วง
10 2 ตลาดนัดหน้ารพ.บางใหญ่ ม.3 ต.บางม่วง รพ.บางใหญ่ อบต.บางม่วง
11 3 ตลาดนัด ม.9 ต.บ้านใหม่ สอ.บ้านดอนตะลุมพุก อบต.บ้านใหม่

รายละเอียด :
แหล่งที่มาของข้อมูล : สำนักงานพาณิชย์จังหวัด
ผู้รับผิดชอบ : นางอรดี ศรีสนั่น
ผู้ตรวจสอบข้อมูล : พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ : วันที่ 26 มิถุนายน 2550 เวลา 09:22:25
ความถี่ในการปรับปรุงข้อมูล : ปีละ 1 ครั้ง
ตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อ : วันที่ 11 กันยายน 2550 เวลา 09:30:08

ลำดับที่ ประเภท ศูนย์กลางการค้า/ตลาด สถานที่ตั้ง สอ. เทศบาล/อบต.
1 1 ตลาดเทศบาลบางบัวทอง ม.5 ต.โสนลอย รพ.บางบัวทอง ท.บางบัวทอง
2 1 ตลาดชุมชนรัตนาธิเบศร์ หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ถ.รัตนาธิเบศร์ สอ.บ้านบางแพรก อบต.บางรักพัฒนา
3 1 ตลาดบุญนิมิตร 82/124 ถ.งามวงศ์วาน ต.ทุ่งสองห้ง สอ.วัดลาดปลาดุก อบต.บางรักพัฒนา
4 2 ตลาดนัดบุศรินทร์ ม.3 ต.พิมลราช โรงกระโจม พิมลราช
5 2 ตลาดนัดหมู่บ้านบัวทอง 4 ม.7 ต.พิมลราช โรงกระโจม พิมลราช
6 2 ตลาดนัดพิมลราช ม.7 ต.พิมลราช โรงกระโจม พิมลราช
7 2 ตลาดปิ่นทองแลนด์ ม.7 ต.พิมลราช สุเหร่าแดง ละหาร
8 2 ตลาดสามง่าม ม.7 ต.พิมลราช สุเหร่าแดง ละหาร
9 2 ตลาดปากซอยวัดบางแพรก ม.4 ต.บางรักพัฒนา บ้านบางแพรก บางรักพัฒนา
10 2 ตลาดวัดไผ่เหลือง ม.4 ต.บางรักพัฒนา บ้านบางแพรก บางรักพัฒนา
11 2 ตลาดซอยวัดมะเดื่อ ม.15 ต.บางรักพัฒนา บ้านบางแพรก บางรักพัฒนา
12 2 ตลาดบัวทอง ซอย 6 ม.10 ต.บางรักพัฒนา บ้านบางแพรก บางรักพัฒนา
13 2 ตลาดนัดลุมพินี ม.3 ต.พิมลราช เทศบาลบางบัวทอง เทศบาลบางบัวทอง
14 2 ตลาดทรัพย์สง่าเซ็นเตอร์ 222/230 ม.3 ต.บางรักพัฒนา เทศบาลบางบัวทอง เทศบาลบางบัวทอง
15 2 ตลาดนัดวันเสาร์ 2/2 ม.2 ต.โสนลอย เทศบาลบางบัวทอง เทศบาลบางบัวทอง
16 2 ตลาดนัดหมู่บ้านโดมทอง ม.8 ต.ละหาร สุเหร่าเขียว ละหาร
17 2 ตลาดนัดสมบัติบุรี ม.13 ต.บางบัวทอง ม.12 บางบัวทอง บางบัวทอง
18 2 ตลาดนัดบัวทองธานี ม.13 ม.13 ต.บางบัวทอง ม.12 บางบัวทอง บางบัวทอง
19 2 ตลาดข้างหมู่บ้านศิริวรรณ ม.11 ต.บางบัวทอง คลองตาคล้าย บางบัวทอง
20 2 หน้าหมู่บ้านปิยวรารมณ์ ม.6 บางบัวทอง คลองตาคล้าย บางบัวทอง
21 2 ตลาดนัดหน้าหมู่บ้านสินบดี ม.1 ต.พิมลราช ม.7 ลำโพ พิมลราช
22 2 ตลาดวัดบางไผ่ ม.3 ต.บางรักพัฒนา วัดบางไผ่ บางรักพัฒนา
23 2 ตลาดนัดลุงชัด ม.8 ต.บางรักพัฒนา วัดลาดปลาดุก บางรักพัฒนา
24 2 ตลาดหน้าธารทอง ม.6 ต.บางรักพัฒนา วัดลาดปลาดุก บางรักพัฒนา
25 2 ตลาดสดพฤกษา 3 ม.5 ต.บางคูรัด ม.3 บางคูรัด บางคูรัด
26 2 ตลาดนัดหน้าม.พฤกษา 3 ม.8 ต.บางคูรัด วัดเต็มรัก บางคูรัด
27 2 ตลาดนัดมนรดา ม.1 ต.บางบัวทอง ม.5 บางบัวทอง บางบัวทอง
28 2 ตลาดนัดข้างซอยโรงหมี่ ม.1 ต.บางบัวทอง ม.5 บางบัวทอง บางบัวทอง
29 2 ตลาดนัดโรงร่ม ม.3 ต.บางบัวทอง ม.5 บางบัวทอง บางบัวทอง
30 2 ตลาดนัดบัวทองธานี ม.14 ม.14 ต.บางบัวทอง ม.12 บางบัวทอง บางบัวทอง
31 2 ตลาดนัด ช. รุ่งเรือง 6 ม.1 ม.ช.รุ่งเรือง 6 ต.บางบัวทอง เทศบาลบางบัวทอง เทศบาลบางบัวทอง

http://203.151.46.31/Chocolate/Program45/A290302.php?idyear=2551&id_topic=A2903&idampur=1204

รายละเอียด :
แหล่งที่มาของข้อมูล : สำนักงานพาณิชย์จังหวัด
ผู้รับผิดชอบ : นางอรดี ศรีสนั่น
ผู้ตรวจสอบข้อมูล : พาณิชย์จังหวัดนนทบุรี
ปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อ : วันที่ 26 มิถุนายน 2550 เวลา 09:22:25
ความถี่ในการปรับปรุงข้อมูล : ปีละ 1 ครั้ง
ตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อ : วันที่ 11 กันยายน 2550 เวลา 09:30:08

หมายเหตุ : ก๊อปปี้มาอีกที

 

© 2013 คนตกงาน. All rights resevered. Designed by Templateism

Back To Top