Sunday, April 26, 2009

ทำบุญโลงศพ วัดหัวลำโพง

5:53 PM

วันนี้ถือว่าเป็นวันดีสำหรับผมทีเดียว เพราะตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องทำบุญโลงศพตามที่อาจารย์ท่านหนึ่งแนะนำเป็นจำนวนเงิน 132 บาท สถานที่ที่ผมนึกจขึ้นมาได้เห็นจะมีอยู่แค่ที่เดียวคือที่วัดหัวลำโพงนี่เอง

ผมวางแผนที่จะออกเดินทางช่วงเช้าจะได้ไม่ร้อนมาก และอาจจะเป็นโชคดีของผมเสียนี่กระไร อากาศร้อนอบอ้าวอยู่หลายวัน พอมาวันนี้มีเค้าครึ้มฟ้าครึ้มฝนซ่ะอย่างงั้น และก็แน่นอนอีกนั่นแหละครับ ผมจะเดินทางโดยทางรถเมล์ฟรีเหมือนเดิม ก่อนออกเดินทางผมได้ศึกษาดูแผนที่เรียบร้อยแล้วครับว่าวัดหัวลำโพงอยู่ ณ ตำแหน่งใดของกรุงเทพฯ เพื่อจะได้เดินทางรวดเดียวไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด

จากจุดเริ่มต้น ผมกะว่าจะนั่งรถเมล์สาย 18 แล้วไปต่อรถที่อนุเสาวรีย์ชัยฯ แต่รถไม่เห็นมาซักที มีแต่รถเสียตังค์ทั้งนั้น ก็เห็นอยู่สายหนึ่งแล่นผ่านมาพอดีคือสาย 203 ก็ถือโอกาสเปลี่ยนเส้นทางซ่ะเลยเรียกได้ว่าผมนั่งตั้งแต่ต้นสายจนถึงสุดสายกันทีเี่ดียวครับ

หลังจากที่รถเมล์สาย 203 แล่นมาถึงสนามหลวงผมก็ลงที่ป้ายหน้ากระทรวงยุติธรรม กำลังใช้ความคิดอยู่ว่าจะไปสายไหนต่อดี แต่ถ้าจะต่อรถจากจุดเดิมคงไม่ค่อยดีเท่าไหน ว่าแล้วผมก็เดินตรงไปผ่านหลักเมืองกรุงเทพฯ เอ๊ะไหน ๆ ก็ผ่านมาแล้วและเคยผ่านมาตั้งหลายครั้ง อยู่กรุงเทพฯมาก็นาน ไม่เคยเข้าไปดูหลักเมืองกรุงเทพฯซักที ว่าแล้วก็ขอเข้าไปไหว้ศาลหลักเมืองก่อนเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต

ผมค่อนข้างประหลาดใจอยู่เหมือนกันว่า ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ก็ยังเห็นมีคนเข้าไปไหว้ศาลหลักเมืองอยู่ตลาดทั้งวัน แต่ผมขอไหว้โดยไม่มีดอกไม้ธูปเทียน คือ ใช้ใจที่บริสุทธิไหว้ก็น่าจะเพียงพอสำหรับคนที่ไม่ค่อยจะมีเงินซักเท่าไรในช่วงเวลานี้สำหรับผม

หลักจากที่ไหว้ศาลหลักเมืองเรียบร้อยแล้ว ผมก็เดินตรงต่อไปผ่านหน้ากระทรวงกลาโหมเพื่อไปยังป้ายรถเมล์ป้ายถัดไป คิดอยู่ในใจว่า น่าจะมีหลายสายที่พอจะพาเราไปถึงจุดหมายได้ ว่าแล้วก็เห็นสาย 1 ผ่านมา(ฟรีเหมือนเดิม) ก็กะว่าจะไปลงที่คลองถมแล้วก็ต่ออีกต่อหนึ่งน่าจะดีกว่า

พอไปถึงคลองถมก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง และด้วยความเคยชินกับอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจทำให้ต้องกลืนน้ำลายอีกแล้ว นั่นก็คือ ปอเปี๊ยะขาหมู เวลาที่ไปถึงก็ถูกต้องเหมาะเจาะ เป็นอาหารกลางวันพอดี ว่าแล้วก็รีบจ้ำอ้าวไปที่ร้านทันที(ความจริงไม่ใช่เป็นร้านหรอกครับ อยู่บนถนนธรรมดามานานหลายสิบปีแล้วครับ) หลังจากเสร็จสิ้นอาหารกลางวันก็ลังเลใจ อยากจะเดินเล่นคลองถมอีกแ้ล้ว แต่ต้องทำหน้าที่ที่สำคัญก่อน ว่าแล้วก็มองหารถเมล์คันต่อไป

ผมใช้เวลาค่อนข้างนานในการรอรถเมล์ที่คลองถม เพราะส่วนใหญ่รถที่วิ่งผ่านมาเป็นรถเสียตังค์ก็เลยไม่ขึ้น ประมาณ 10 นาที ก็เห็นรถเมล์สาย 4(ฟรี) มาพอดี ผ่านเป้าหมายแน่นอน รถแล่นมาจนถึงสามย่านผมก็ลงที่ป้านหน้าจามจุรีคอมเพร็คซ์(จำไม่ค่อยได้ว่าใช่ชื่อนี้หรือเปล่า) เดินย้อนกลับมานิดหน่อยอยู่ฝั่งตรงกันข้าม นั่นแหละครับคือ วัดหัวลำโพง ที่หมายที่ผมต้องการจะไปให้ถึง

ผมว่าผมค่อนข้างจะมีเซ๊นส์อยู่พอสมควรว่าสถานที่ที่ทำบุญโลงศพอยู่ตรงไหน ตอนแรกก็ว่าจะถามรปภ. แต่ลองเดินไปดูก่อน เพราะถ้าไปไม่ถูกก็จะได้เดินชมสถานที่ไปด้วย จากประตูทางด้านถนนพระราม 4 เดินไปทางด้านขวามือชิดกับกำแพงก็จะเห็นมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่นี่เองครับที่คนเค้าไปทำบุญโลงศพกัน ซึ่งก็ติดอยู่กับถนนอีกฝั่งหนึ่ง(ไม่รู้ว่าชื่อถนนอะไร เป็นสี่แยกที่จะไปมาบุญครองได้)

ภายในมูลนิธิ เดินเข้าไปก็คงไม่ต้องไปถามใครให้เสียเวลาว่าทำบุญโลงศพที่ไหน เพราะมีเจ้าหน้าที่หลาย ๆ ท่านนั่งประจำการเพื่อรอรับบริจาคอยู่แล้ว อันนี้ก็แล้วแต่กำลังศรัทธา มากน้อยไม่เป็นไร ขอให้ใจเป็นกุศลเป็นพอ ผมก็รีบนำเงิน 132 บาทที่ผมเตรียมไว้ออกมา แล้วก็บอกเจ้าหน้าที่ว่า บริจาค/ทำบุญ 132 บาทครับ แค่นี้เท่านั้นเอง เจ้าหน้าที่ก็จะนำใบอุทิศส่วนกุศลเขียนชื่อเราพร้อมรายเซ็นต์เท่านี้เป็นอันเรียบร้อย แต่ยังไม่จบครับ

ผมก็ถามเจ้าหน้าที่อีกว่า ใบนี้เอาไว้ทำอะไรครับ(เป็นใบสีส้มชมพูที่เราเขียนชื่อ) เจ้าหน้าที่ตอบว่า ให้นำไปแป็ะไว้ที่โลง ทางมูลนิธิจะมีกาวแป้งเปียกเตรียมไว้เรียบร้อย เราก็แค่ติดกาวแล้วก็ไปติดที่โลงตำแหน่งไหนก็ได้ด้วยใจบริสุทธิ และนี่ก็คือทั้งหมดในการทำบุญโลงศพของผมวันนี้ หลังจากนั้นผมก็เดินทางกลับ

Written by

We are Creative Blogger Theme Wavers which provides user friendly, effective and easy to use themes. Each support has free and providing HD support screen casting.

0 ความคิดเห็น:

 

© 2013 คนตกงาน. All rights resevered. Designed by Templateism

Back To Top