เอกสารใดๆ ของทางราชการ ถ้าเกิดสูญหาย สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในกรณีที่ต้องใช้อ้างอิง
ในกรณีถูกล้วงกระเป๋า บัตรและเอกสารทุกอย่างสูญหาย สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงก่อนก็คือ การอายัดบัตรเครดิต บัตร ATM หรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวโยงไปถึงธุรกรรมทางการเงินของเรา
บัตรเครดิตควรถุกดำเนินการเป็นอันดับแรก เพราะเป็นสิ่งที่สามารถนำไปใช้จ่ายได้ทันที สามารถโทรเข้า call center ของบัตรนั้นๆ เพื่อทำการอายัด หลังจากนั้นค่อยโทรอายัดบัตร ATM
สิ่งที่จะทำให้เราอายัดบัตรได้อย่างรวดเร็วนั่นก็คือ การที่เราสามารถจำหมายเลขบัตรประชาชนได้ เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าที่ข้อมูลตัวตนของเราได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากทำการอายัดบัตรเกี่ยวกับการเงินทุกประเภทแล้ว และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจขอสำเนาบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในกรณีที่บางหน่วยงานต้องการอ้างอิง
ทำบัตรประชาชน
ถ้าหากบัตรประชาชนสูญหาย สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือการทำบัตรประชาชน เพราะจะเป็นสิ่งที่เราต้องนำไปใช้ประกอบในการขอบัตรและเอกสารต่างๆ ของทางราชการและเอกชน สิ่งที่ต้องนำไปติดตัวไปด้วยในการขอทำบัตรประชาชนใหม่ก็คือ ทะเบียนบ้านตัวจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด ไปเขียนคำร้องขอทำบัตรประชาชนใหม่ได้ทุกที่ แล้วแต่ความสะดวกของเรา ค่าทำบัตรใหม่อยู่ที่ 100 บาท
บัตรเครดิต
โดยปรกติ หลังจากที่เราอายัดบัตรเครดิตที่สูญหายแล้ว ทางธนาคารจะดำเนินการทำบัตรใหม่ส่งให้เรา อาจต้องทำการยืนยันหลังจากที่เราได้รับบัตรใหม่ ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารที่อาจจะมีวิธีการดำเนินการที่ต่างกัน ซึ่งจะมีเอกสารบอกวิธีปฏิบัติส่งมาพร้อมกับบัตรก็ให้ปฏิบัติตามนั้น ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทำบัตรใหม่(บางธนาคารอาจเสียหรือเปล่า ตรงนี้ผมไม่ทราบน๊ะครับ)
บัตร ATM
สิ่งที่ต้องใช้ในการขอทำบัตร ATM ใหม่คือ บัตรประจำตัวประชาชน สมุดบัญชีธนาคาร สามารถดำเนินการทำบัตรใหม่ได้ทุกสาขา(ถ้าไม่ลำบากมากให้ไปสาขาที่ตรงกับสมุดบัญชีดีกว่าครับ) ค่าใช้จ่ายในการทำบัตร ATM ใหม่จะเท่ากับการทำบัตรใหม่ตามชนิดของบัตรเริ่มตั้งแต่ 150 บาทขึ้นไป(อาจมีถูกกว่านี้หรือเปล่าผมไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของบัตร)
*บางธนาคารอาจมีข้อเสนอพ่วงมากับบัตร ตรงนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเราเองว่าต้องการหรือเปล่า แน่นอนว่าค่าทำเนียมรายปีจะเพิ่มขึ้นถ้าเราต้องการบริการพ่วง ถ้าเราไม่มีความจำเป็นที่จะใช้บริการใดๆ นอกเหนือจากการกดเงิน ให้บอกธนาคารว่า "เลือกบัตรที่ค่าทำเนียมรายปีถูกที่สุด" ถ้าไม่เป็นไปตามที่เราต้องการ หรือมีการยัดเยียด ลองเปรียนไปทำสาขาอื่นดูครับ เรื่องแบบนี้ไม่ต้องเกรงใจ บัตรของเรา เงินของเรา เรื่องของเราน๊ะครับ
ใบขับขี่
ใช้เอกสารบัตรประชนชน พร้อมสำเนา 1 ชุด ต่อ 1 ใบขับขี่ ไปขอทำใบขับขี่ใหม่ ที่ขนส่งได้ทุกที่ อยู่ตรงไหนบ้างก็หาดูกันเอาเองครับ ไม่น่าจะหายาก เดี๋ยวบางคนอาจจะงง(ไม่น่าจะมีน๊ะ) ว่า ขนส่ง ในที่นี้ไม่ใช่ขนส่งแบบขนส่งหมอชิต ขนส่งแบบมีรถโดยสารให้คนนั่งน๊ะครับ มันคือขนส่งที่เราไปต่อทะเบียนรถ ทำใบขับขี่ ไปสอบใบขับขี่ ไปอบรมการจราจร
ให้เรากรอกเอกสารเพื่อขอทำใบขับขี่ใหม่ อาจต้องใช้เวลาเยอะในกระบวนการ เพื่ออาจรอคิวค่อนข้างนาน เนื่องจากคนเยอะ(บางแห่ง) ควรเผื่อเวลาไว้ซัก 2-3 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่ายในการทำใบขับขี่ใหม่อยู่ที่ 255 บาทต่อใบ
บัตรอื่นๆ
อาจจะมีบัตรอื่นๆ ที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน อาจจะสำคัญมากบ้างน้อยบ้างก็ให้ดำเนินการหลังจากที่เราทำบัตรต่างๆ ข้างต้นเสร็จสิ้นแล้ว
สิ่งที่ผมทราบมา ไม่ว่าจะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ บัตร ATM บัตรเครดิต ไม่ต้องใช้ใบบันทึกประจำวันจากตำรวจ แต่อย่างไรก็ตาม เราควรจะทำการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเผื่อไว้ก่อนจะดีกว่า อย่างน้อยก็ยังเป็นหลักฐานที่ว่า บัตรต่างๆ ของเราได้สูญหายไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม หากจะมีใครบางคนที่อาจจะนำบัตร เอกสารที่สูญหายนั้นไปทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร เราก็จะมีหลักฐานว่า นั่นไม่ใช่ตัวเรา เพราะเรามีบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานอยู่แล้ว
Sunday, May 21, 2017
Wednesday, February 12, 2014
อัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมงวดเดือนมกราคม 2557 เป็นต้นไป เดือนละ 432 บาท
ตามที่ สำนักงานประกันสังคมได้ลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ปี 2556 ในส่วนของผู้ประกันตนสมัครใจมาตรา 39 โดยจัดเก็บเงินสมทบตั้งแต่งวดเดือนมกราคา - งวดเดือนธันวาคม 2556 เดือนละ 336 บาทนั้น สำนักงานประกันสังคมให้จัดเก็บเงินสมทบกองทุนประกันสังคมผู้ประกันตนสมัครใจมาตรา 39 ตั้งแต่งวดเดือนมกราคา 2557 เป็นต้นไป ในอัตราเดิม คือ เดือนละ 432 บาท สำหรับประโยชน์ทดแทน 6 กรณี เป็นไปตามกฏหมายกำหนด
เพราะฉะนั้น ในปี 2557 เราผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบในอันตราเดิม คือ 432 บาทต่อเดือน จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
เพราะฉะนั้น ในปี 2557 เราผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบในอันตราเดิม คือ 432 บาทต่อเดือน จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
By:
admin
On 8:26 AM
Wednesday, April 3, 2013
ด่วนที่สุด!!! การลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๕๖
ได้รับจดหมาย ด่วนที่สุด จากสำนักงานประกันสังคมดังนี้
เรื่อง การลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๕๖
เรียน ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๘
- ตั้งแต่งวดเดือนมกราคม - งวดเดือนธันวาคม ๒๕๕๖ นำส่งเงินสมทบเดือนละ ๓๓๖
ทั้งนี้ ตั้งแต่งวดเดือนมาราคม ๒๕๕๗ เป็นต้นไป ให้นำสงเงินสมทบในอัตราเดิมเดือนละ ๔๓๒ บาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
จำตัวเลขให้แม่นน๊ะครับ ๓๓๖ บาทจนถึงงวนเดือนธันวาคม ถือเป็นข่าวดีที่ช่วยลดรายจ่าย ถึงจะไม่มากก็คิดรวมทั้งปีก็พอสมควรครับ
By:
admin
On 7:29 AM
Sunday, March 10, 2013
ปี 2556 ประกันสังคมขยายเวลาลดอัตราการส่งเงินสมทบเป็น 336 บาท
ความจริงแล้วไม่ได้ทราบข่าวนี้มาก่อน เมื่อวานไปชำระเงินสมทบประกันสังคมที่ธนาคารกรุงไทย เขียนใบนำฝากสีเหลืองเป็นจำนวนเงิน สี่ร้อยสามสิบสองบาท(432) พอถึงคิวตามที่กดบัตรคิวก็เข้าช่องไปยื่นจ่ายตามระเบียบ แต่พนักงานรับฝากพูดอะไรได้ยินไม่ถนัด ถามซ้ำอีกครั้งบอกว่า ตรงนี้จะจ่ายเป็น "สามร้อยสามสิบหกบาทครับ" "เขาเพิ่งมีประกาศลดอัตราสมทบ" ผมเอ่ยขึ้นว่า "ปรกติก็น่าจะมีหนังสือมาก่อน เดือนก่อนยังจ่าย 432 บาทอยู่นี่ครับ" "เดี๋ยวเขาคงมีวิธีคืนเงินมาให้แหละครับ" "ผมก็ตอบกลับว่า ดีจริงๆ อยู่ๆ ก็เหมือนมีเงินใช้อีกร้อยหนึ่ง"
วันนี้เข้าไปเช็คที่เว็บไซด์ประกันสังคมเพื่อดูว่ามีข่าวเกี่ยวกับการลดอัตราการส่งเงินสมทบหรือเปล่า ปรากฏว่า ไม่เห็นแม้เงา นึกหวั่นใจว่าธนาคารจะมั่วหรือเปล่าเดี๋ยวเราจะซวยก็เลยต้องค้นหาข้อมูลสรุปว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ “ลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม” เป็น 336 บาทในปี 2556 เพราะต้องการช่วยเหลือนายจ้างมาจากเหตุเรื่อง การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวัน 300 บาท ทั่วประเทศ
เอ๊ะ...แล้วมีผลกับเราด้วยหรือเปล่า เพราะเราอยู่ในมาตรา 38 ก็คงต้องติดตามประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป แต่ผมว่า ข้อมูลแบบนี้เว็บไซด์ประกันสังคมที่น่าจะเป็นทางการกับไม่มีข่าวซ่ะนี่ อยากให้ปรับปรุงสื่อทางด้านนี้ให้มากกว่านี้หน่อย หรือว่าผมหาไม่เจอเอง...
By:
admin
On 7:54 PM
Sunday, December 16, 2012
บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลประจำปี 2556
ได้รับจดหมายสดๆ ร้อนๆ จากประกันสังคมพร้อมทั้งบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลประจำปี 2556 ใจความของจดหมายมีดังต่อไปนี้
เรื่อง บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล
เรียน ผู้ประกันตนตามมาตรา ๓๘
สิ่งที่ส่งมาด้วย บัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล
ด้วยบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาลของท่านจะหมดอายุในวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด[...] จึงออกบัตรรับรองสิทธิฯ ฉบับใหม่ที่เริ่มใช้สิทธิรับบริการทางการแพทย์ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ เป็นระยะเวลา ๒ ปี (สิ่งที่ส่งมาด้วย) โดยระบุสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ เดิม ยกเว้นสถานพยาบาลเดิมไม่เข้าเป็นสถานพยาบาลประกันสังคมปี ๒๕๕๖ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด[...] ได้จัดสถานพยาบาลทดแทนให้ท่าน หากท่านมีความประสงค์ที่จะเลือกสถานพยาบาลใหม่ สามารถยื่นคำขอตามแบบ สปส.๙-๐๒ ได้ที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัด[...] ตั้งแต่วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๖ ถึงวันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๕๖ ซึ่งสถานพยาบาลที่เลือกต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังนี้
(๑) สถานพยาบาลในเขตจังหวัดที่ประจำทำงานหรือเขตจังหวัดรอยต่อของจังหวัดที่ประจำทำงาน หรือ
(๒) สถานพยาบาลในเขตจังหวัดที่พักอาศัยหรือเขตจังหวัดรอยต่อของจังหวัดที่พักอาศัย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ในส่วนนี้ก็น่าจะรวมไปถึง ความต้องการในการเปลี่ยนสถานพยาบาลใหม่สำหรับผู้ประกันตนด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ประกันตน อย่างไรก็ตาม ควรโทรสอบถามไปยังประกันสังคมจังหวัดที่เราใช้บริการอยู่น๊ะครับ
By:
admin
On 12:49 PM
Thursday, June 28, 2012
อัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคมใหม่งวดเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2555
อ้างอิงจากเนื้อหา ด่วนที่สุด!!! - การลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม ปี พ.ศ.2555 จะแบ่งออกเป็น 2 ระยะดังนี้
- ตั้งแต่งวดเดือนมกราคม - งวดเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ นำส่งเงินสมทบเดือนละ ๒๔๐ บาท
- ตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม - งวดเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ นำส่งเงินสมทบเดือนละ ๓๓๖ บาท
การส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม คือ การให้ใช้ก่อนแล้วจ่ายทีหลัง ความหมายก็คือ สมมติว่าวันนี้คือเดือน กรกฎาคม เพราะฉะนั้น การส่งเงินสมทบจะเป็นของเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นงวดสุดท้ายที่เราจะส่งเงินสมทบเป็นจำนวนเงิน 240 บาท ส่วนในเดือนถัดไป คือ เดือนสิงหาคม จะเป็นการส่งเงินสมทบของงวดเดือนกรกฎาคม จำนวนเงิน 336 บาทจนถึงสิ้นปี
ขออัปเดทสั้นๆ เพื่อเตือนความจำแค่นี้ครับ...
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
- ตั้งแต่งวดเดือนมกราคม - งวดเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ นำส่งเงินสมทบเดือนละ ๒๔๐ บาท
- ตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม - งวดเดือนธันวาคม ๒๕๕๕ นำส่งเงินสมทบเดือนละ ๓๓๖ บาท
การส่งเงินสมทบกองทุนประกันสังคม คือ การให้ใช้ก่อนแล้วจ่ายทีหลัง ความหมายก็คือ สมมติว่าวันนี้คือเดือน กรกฎาคม เพราะฉะนั้น การส่งเงินสมทบจะเป็นของเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นงวดสุดท้ายที่เราจะส่งเงินสมทบเป็นจำนวนเงิน 240 บาท ส่วนในเดือนถัดไป คือ เดือนสิงหาคม จะเป็นการส่งเงินสมทบของงวดเดือนกรกฎาคม จำนวนเงิน 336 บาทจนถึงสิ้นปี
ขออัปเดทสั้นๆ เพื่อเตือนความจำแค่นี้ครับ...
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
By:
admin
On 11:01 AM
Wednesday, March 7, 2012
งานของผม ผลของงาน กับความพยายามที่ไม่ได้สำเร็จเพียงข้ามคืน
กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงที่แทบจะไม่มีเอาซ่ะเลย
นี่ก็ล่วงเลยมากว่า 3 ปีที่ผมตกงาน จนทุกวันนี้ผมก็ยังบอกกับใครๆ ว่า "ตกงาน" อยู่ร่ำไป เพราะในสายตาของคนทั่วไป การมีงานทำคือต้องออกไปทำงาน ต้องตื่นเช้า ต้องมีกิจวัตรเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไป
แต่สำหรับผมแล้ว ไม่เลย
ผมมีงานทำ ผมทำมากว่า 2 ปี เป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามและความอดทน อีกทั้งต้องศึกษาหาความรู้ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้เข้าใจท่องแท้
คงมีไม่กี่คนที่เข้าใจว่า "งานออนไลน์" มันมีอยู่จริง งานที่ทำอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ขอให้มีอินเตอร์เน็ตใช้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ก็สามารถทำงานได้
อย่างเช่นบล็อกนี้ก็ถือว่าเป็นงานออนไลน์อย่างหนึ่งที่สามารถทำเงินได้ แต่เป็นจำนวนเงินเล็กน้อยเท่านั้น นั่นก็คือ การแปะโฆษณาของกูเกิ้ล เฉลี่ยแล้วมีรายรับจากบล็อกนี้ประมาณเดือนละ 1 พันบาท
แต่งานหลักของผมไม่ใช่ในรูปแบบนี้ แต่เป็นการขายของออนไลน์ ที่ไม่ต้องมีสินค้า ที่ไม่ต้องมีกระบวนการจัดส่ง เพียงแค่เป็นสื่อกลางในการซื้อสินค้า ยิ่งเขียนก็ยิ่งงง สรุปกันเลยว่า ผมขายของให้เว็บ "อเมซอน" เว็บอีคอมเมอร์สที่่ใหญ่ที่สุด ณ เวลานี้ รายได้ก็มาจากค่าคอมมิสชั่นที่เราสามารถขายได้
ผมมีรายได้แค่ไหนจากการขายของให้อเมซอน บอกเป็นตัวเลขคร่าวๆ ได้ว่า "หกหลัก" ซึ่งก็ทำให้ผมสามารถใช้ชีวิตในรูปแบบที่ผมต้องการได้ และดีกว่าการทำงานประจำ คือมีเวลามากขึ้น สามารถเลือกเวลาในการทำงานได้ สามารถเลือกเวลาที่จะตื่นนอนได้
ผมสามารถหาเงินออนไลน์จนมีรายได้ "หกหลัก" มากกว่า 2 ปีแล้ว แต่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนมากกว่า 1 ปี หรือประมาณปีครึ่ง เพื่อค้นหา ศึกษา ทดลอง ทดสอบอะไรหลายๆ อย่าง ยอมรับว่าท้อและรู้สึกหมดแรงหมดกำลังในช่วงแรกๆ ที่ตัดสินใจเดินบนเส้นทางสายนี้ แต่เป็นเส้นทางที่ต้องเลือก เพราะไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไร หรือลงทุนน้อยมาก อีกทั้งผลตอบแทนก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด
ระยะหลังผมไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเขียนบล็อกนี้เท่าไรนักเนื่องจากติดภาระกิจของการทำงานออนไลน์ เพราะการทำงานในลักษณะนี้ต้องมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสายตาที่อาจจะสร้างปัญหาได้ในอนาคตเนื่องจากต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอเป็นระยะเวลานานๆ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจสำหรับคนที่กำลังตกงานว่า "อย่าท้อ" วางแผนในการทำงานให้ดี เลือกงานที่เราชอบหรือรักที่จะทำ และจงทำมันให้ถึงที่สุด หลายคนไม่สามารถไปได้ถึงฝันเพราะหยุดกลางคัน หรือหยุดที่ก้าวสุดท้ายก่อนถึงความสำเร็จ เพราะความอ่อนล้า ท้อแ้ท้ หรืออ่อนแรง
จงเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่เราตัดสินใจไว้แล้วให้ดีที่สุด สุดความสามารถ สุดชีวิต ความสำเร็จรอเราอยู่ และจงเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น เหมือนกับผมที่เชื่อมาตลอดว่า ผมจะยึดงานออนไลน์เป็นอาชีพหลักให้ได้ และผมก็ทำมันได้ในที่สุด
นี่ก็ล่วงเลยมากว่า 3 ปีที่ผมตกงาน จนทุกวันนี้ผมก็ยังบอกกับใครๆ ว่า "ตกงาน" อยู่ร่ำไป เพราะในสายตาของคนทั่วไป การมีงานทำคือต้องออกไปทำงาน ต้องตื่นเช้า ต้องมีกิจวัตรเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไป
แต่สำหรับผมแล้ว ไม่เลย
ผมมีงานทำ ผมทำมากว่า 2 ปี เป็นงานที่ต้องใช้ความพยายามและความอดทน อีกทั้งต้องศึกษาหาความรู้ที่ไม่เคยมีมาก่อนให้เข้าใจท่องแท้
"ผมทำงานออนไลน์"
คงมีไม่กี่คนที่เข้าใจว่า "งานออนไลน์" มันมีอยู่จริง งานที่ทำอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ขอให้มีอินเตอร์เน็ตใช้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้ก็สามารถทำงานได้
อย่างเช่นบล็อกนี้ก็ถือว่าเป็นงานออนไลน์อย่างหนึ่งที่สามารถทำเงินได้ แต่เป็นจำนวนเงินเล็กน้อยเท่านั้น นั่นก็คือ การแปะโฆษณาของกูเกิ้ล เฉลี่ยแล้วมีรายรับจากบล็อกนี้ประมาณเดือนละ 1 พันบาท
แต่งานหลักของผมไม่ใช่ในรูปแบบนี้ แต่เป็นการขายของออนไลน์ ที่ไม่ต้องมีสินค้า ที่ไม่ต้องมีกระบวนการจัดส่ง เพียงแค่เป็นสื่อกลางในการซื้อสินค้า ยิ่งเขียนก็ยิ่งงง สรุปกันเลยว่า ผมขายของให้เว็บ "อเมซอน" เว็บอีคอมเมอร์สที่่ใหญ่ที่สุด ณ เวลานี้ รายได้ก็มาจากค่าคอมมิสชั่นที่เราสามารถขายได้
ผมมีรายได้แค่ไหนจากการขายของให้อเมซอน บอกเป็นตัวเลขคร่าวๆ ได้ว่า "หกหลัก" ซึ่งก็ทำให้ผมสามารถใช้ชีวิตในรูปแบบที่ผมต้องการได้ และดีกว่าการทำงานประจำ คือมีเวลามากขึ้น สามารถเลือกเวลาในการทำงานได้ สามารถเลือกเวลาที่จะตื่นนอนได้
ผมสามารถหาเงินออนไลน์จนมีรายได้ "หกหลัก" มากกว่า 2 ปีแล้ว แต่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนมากกว่า 1 ปี หรือประมาณปีครึ่ง เพื่อค้นหา ศึกษา ทดลอง ทดสอบอะไรหลายๆ อย่าง ยอมรับว่าท้อและรู้สึกหมดแรงหมดกำลังในช่วงแรกๆ ที่ตัดสินใจเดินบนเส้นทางสายนี้ แต่เป็นเส้นทางที่ต้องเลือก เพราะไม่ต้องใช้เงินลงทุนอะไร หรือลงทุนน้อยมาก อีกทั้งผลตอบแทนก็มากพอที่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด
ระยะหลังผมไม่ค่อยมีโอกาสได้มาเขียนบล็อกนี้เท่าไรนักเนื่องจากติดภาระกิจของการทำงานออนไลน์ เพราะการทำงานในลักษณะนี้ต้องมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสายตาที่อาจจะสร้างปัญหาได้ในอนาคตเนื่องจากต้องใช้เวลาอยู่หน้าจอเป็นระยะเวลานานๆ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจสำหรับคนที่กำลังตกงานว่า "อย่าท้อ" วางแผนในการทำงานให้ดี เลือกงานที่เราชอบหรือรักที่จะทำ และจงทำมันให้ถึงที่สุด หลายคนไม่สามารถไปได้ถึงฝันเพราะหยุดกลางคัน หรือหยุดที่ก้าวสุดท้ายก่อนถึงความสำเร็จ เพราะความอ่อนล้า ท้อแ้ท้ หรืออ่อนแรง
จงเชื่อและศรัทธาในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่เราตัดสินใจไว้แล้วให้ดีที่สุด สุดความสามารถ สุดชีวิต ความสำเร็จรอเราอยู่ และจงเชื่อว่ามันจะเป็นอย่างนั้น เหมือนกับผมที่เชื่อมาตลอดว่า ผมจะยึดงานออนไลน์เป็นอาชีพหลักให้ได้ และผมก็ทำมันได้ในที่สุด
By:
admin
On 12:32 PM
Subscribe to:
Posts (Atom)