Sunday, June 28, 2009

ให้กำลังใจตนเองอย่างไรเมื่อตกงาน

คงต้องพูดกันแบบตรง ๆ เลยว่า เมื่อเราอยู่ในภาวะที่ต้องตกงาน ความรู้สีกผิดหวังในชีวิตย่อมเกิดขึ้นแน่นอน และก็อาจจะเกิดความท้อแท้ใจอยู่บ้างเมื่อเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าแต่ก็ยังตกงานอยู่้เช่นเดิม และผมก็เช่นเดียวที่ประสบกับปัญหานี้มา แต่ก็ยังมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตอยู่ นอกจากกำลังจากคนรอบข้างแล้ว ผมถือว่าการให้กำลังตนเองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะว่าคนส่วนใหญ่แล้วไม่ต้องการรับรู้ความทุกข์ของเราถ้าไม่ใช่พ่อแม่พี่น้องหรือว่าเป็นเพื่อนสนิทเพื่อนตายกันจริง ๆ

ทุกวันนี้ผมก็ยังคงนั่งรอนอนรอนับวันเวลาที่ผมกำลังจะต้องปรับเปลี่ยนชีวิตครั้งสำคัญ นั่นก็อาจจะทำให้ผมมีความรู้สึกเหงาและซึมเศร้าเป็นที่สุด แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ผมก็ยังหวังว่าซักวันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยมีจะกลับมาเป็นดั่งเดิมหรือมากกว่าเก่า

ผมยังคิดอยู่เสมอว่า หลาย ๆ คนไม่มีโอกาสเท่ากับผม ถึงผมจะตกงานและเงินกำลังจะหมดแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังมีร่างกายครบ 32 ไม่พิกลพิการ อีกทั้งผมก็ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์อยู่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่ประการใด ผมถือว่าการมีชีวิตอยู่ด้วยร่างกายที่สมบูรณ์เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุดเท่าที่มนุษย์พึงจะมีได้ และผมก็อยากให้ทุก ๆ คนคิดเฉกเช่นเดียวกันกับผมเช่นกัน ถ้าหากจะมีใครซักคนมาให้ผมเลือกระหว่างมีงานทำแต่ร่างกายพิการกับไม่มีงานทำแต่ร่างกายสมบูรณ์ ผมเลือกอย่างหลังดีกว่า

เห็นหรือยังครับว่า ผมโชคดีกว่าหลาย ๆ คนตั้งแต่เกิดมา ถึงแม้ขณะนี้ผมแทบจะไม่เหลือเงินเลยก็ตาม แล้วคุณ ๆ ทั้งหลายล่ะครับ โชคดีเหมือนกับผมหรือเปล่า

เมื่อชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ความหวังมันก็ยังคงอยู่คู่กับเราตลอดไป ขอให้ทุกคนโชคดีน๊ะครับ

Friday, June 26, 2009

พาไปเที่ยวตลาดสำเพ็ง ตอนที่ 2 รีวิวทั่วไป สำหรับท่านที่ไม่สะดวกตลาดเช้า

อันนี้ก็เป็นภาคต่อจากครั้งที่แล้วที่ต้องขออนุญาติเจ้าของกระทู้จากพันทิพนำมาเผยแพร่อีกครั้งหนึ่ง เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อหลาย ๆ คน ต้องขอขอบคุณ คุณOL Girl มา ณ ที่นี้ด้วยครับ ก็ตามนี้เลยครับ

สวัสดีค่ะ มาอีกแล้วค่ะ สำหรับรายการรีวิวสำเพ็งสำหรับ SME

คราวนี้พาไปดูว่ามีอะไรขายบ้างในช่วงกลางวันนะคะ ไม่ต้องตื่นตั้งแต่ตีสาม ไปเวลาปรกตินี่แหล่ะค่ะ ตั้งแต่ 8.00 -17.00 ประมาณนี้ ก็มีของขายเช่นกันค่ะ

คลิ๊กที่รูปภาพเพื่อขยายให้ชัดขึ้น

สำหรับวิธีเดินทางไปสำเพ็ง ก็อ่านจากกระทู้ที่แล้วได้เลยค่ะ [คลิ๊กที่นี่เพื่อดูตอนที่1]

สาย 7 , 73 , 4 , 40 , 4 , 56 , 542 , 529 , 21 , 37 ลง ตรงถนนจักรวรรดิ แล้วเดินเข้าซอย วานิช 1
หรือ สาย 204 ลงตรงถนนราชวงศ์

คราวก่อนแจกแจงสินค้าไปละเอียดยิบ ทำให้เขียนแผนที่แล้วดูเลอะๆ คราวนี้ขออนุญาต รวมๆ เป็นกลุ่มๆ แล้วกันนะคะ

กลุ่มแรก คือ สินค้าพวกกิฟท์ช้อป เครื่องประดับผม สร้อยคอ ต่างหู แหวน กำไล คาดผม เครื่องประดับเกาหลี ทั้งหลาย กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง พวงกุญแจ ที่ห้อยมือถือ เครื่องเขียนแบบน่ารักๆ ไปจนถึงพวกกระดาษห่อของขวัญ สมุดปากกา บ้านๆทั่วไป

อันนี้ก็เดินดูตามแผนที่สีเขียวได้เลยค่ะ มีร้านอยู่ตามโซนที่ mark ไว้

กลุ่มต่อมา เห็นมีเพื่อนๆสนใจถามมาหลังไมค์นะคะ คือ กลุ่มกระเป๋า รองเท้า กลุ่มนี้จะอยู่ท้ายๆ สำเพ็งหน่อย ถ้าใครรู้จักร้านทอง ตั้งโต๊ะกัง อันนี้จะอยู่โซนนั้นนะคะ ถ้าเดินไปจากต้นซอย วานิช 1 ก็พอข้ามถนนราชวงศ์ ก็จะเริ่มเข้าสู่โซนกระเป๋าก่อน

กระเป๋าก็มีทุกชนิดค่ะที่เค้าขายกัน อยากขายกระเป๋าแบบไหนก็ลองไปเดินดูนะคะ แบบพวก mirror AAA จริงๆก็มีค่ะ แต่บางร้านจะขายให้เฉพาะที่เป็นลูกค้าประจำเท่านั้น ต้องซื้อเยอะขั้นต่ำ 3 ใบ 6 ใบ

รองเท้า จะอยู่โซนท้าย ๆ เข้าไปอีก ถัดจากตรอกโรงโคมในแผนที่ รองเท้าแตะ รองเท้ายาง รองเท้าแฟชั่นแบบขาย 199 รองเท้าผ้าใบ อันนี้จะมีเยอะมาก ต้องไปเดินดูนะคะว่าอยากจะขายแบบไหน ส่วนมากขายส่งค่ะ ถ้าไปซื้อปลีก เค้าจะขายในราคา ++ เยอะเหมือนกัน

กลุ่มสุดท้าย ที่คิดว่าน่าจะเป็นของที่เอาไปขายต่อได้ดี ก้อพวกของเล่นค่ะ ของเล่นก็มีตั้งแต่ พวกเป็นแผงๆ ที่ขายตามร้านขายของชำ 5 บาท 1 บาท ตุ๊กตุ่น หม้อข้าวหม้อแกง ของเล่นน่ารักๆแบบ import จากญี่ปุ่น โมเดล อันนี้ก็เยอะค่ะ rement โมเดลแพงๆ อันนี้ก็มีหลายร้าน ไบลน์ เคยไปถามราคาถ้าซื้อส่งก้อลดได้นิดหน่อย พอ ๆ กับ pre จากเว็บพวกตุ๊กตาเป่าลม ตุ๊กตาสำหรับประดับบ้านตัวใหญ่ ๆ ที่ฮิต ๆ หรือพวกรถบังคับ เครื่องบินบังคับ อันนี้ก้อเพียบค่ะ ถ้าจะซื้อของเล่นไปขายต่อ คงต้องเดินสำรวจราคาเยอะ ๆ เพราะแต่ละร้านราคาต่างกันเยอะเหมือนกัน ยกเว้นพวกของเล่น 5 บาท 10 บาท ลูกโป่งเป่าลม ราคาพอๆกันค่ะ

Thursday, June 25, 2009

เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน นายจ้างต้องบอกล่วงหน้าหรือไม่

บังเอิญว่าไปเจอบทความหนึ่งใน jobsdb.com เกี่ยวกับเรื่องการเลิกจ้างในระหว่างการทดลองงาน น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับบางคนที่ต้องอยู่ในสถานะการณ์นี้ ลองอ่านดูน๊ะครับ แต่ไม่มีข้อมูลว่าต้องจ่ายเท่าไหร่สำหรับการเลิกจากโดยไม่บอกล่วงหน้านี้ ยังไงก็ลองติดต่อไปที่กรมแรงงานขอคำปรึกษาดูน๊ะครับ ผมว่าบริการที่กรมแรงงานก็ให้ความเอาใจใส่ดีเหมือนกัน

คุณเพิ่งเข้าทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีกำหนดระยะเวลาทดลองงาน 120 วัน แต่เมื่อคุณทำงานได้เพียง 30 วัน นายจ้างก็แจ้งให้คุณทราบว่า คุณไม่ผ่านการทดลองงานเสียแล้ว และยิ่งไปกว่านั้นการบอกกล่าวนี้มีผลบังคับใช้ทันที วันพรุ่งนี้คุณจะกลายเป็นคนว่างงานอีกครั้ง อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เหตุการณ์เช่นนี้ยุติธรรมแล้วหรือ สำหรับลูกจ้างตาดำ ๆ อย่างคุณ

เรื่อง การเลิกจ้างระหว่างทดลองงานนี้เป็นปัญหาถกเถียงกันอย่างมาก ว่าลูกจ้างได้รับความยุติธรรมแล้วหรือ นายจ้างสามารถเลิกจ้างเมื่อไรก็ได้ ในระหว่างทดลองงานจริงหรือ จากหนังสือ “เลิกจ้างต้องระวัง” โดยคุณไพศาล เตมีย์ บอกไว้ว่า ปัญหาดังกล่าว เมื่อมีการฟ้องร้องกัน และมีฎีกาตัดสินออกมา ปรากฏว่า การเลิกจ้างเนื่องจากไม่ผ่านการทดลองงาน นายจ้างต้องมีการบอกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างรับทราบด้วย หากต้องการให้ลูกจ้างออกทันทีโดยไม่ต้องการบอกกล่าวล่วงหน้า นายจ้างจะต้องจ่าย “ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า” ให้ลูกจ้างด้วยจึงจะถูกต้อง

แม้ นายจ้างจะทำสัญญากับลูกจ้างไว้แล้วว่า “ระหว่างทดลองงานนั้น นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ทันที หากผลการทำงาน ไม่เป็นที่น่าพอใจ” แต่ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 17 วรรคสองและวรรคสี่ ซึ่งเป็นวรรคที่กำหนดให้ การเลิกสัญญาจ้างลูกจ้าง จะต้องบอกกล่าวล่วงหน้า หรือหากไม่บอกกล่าวล่วงหน้าก็ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้านั้น ไม่มีข้อความตรงไหนที่ยกเว้นให้ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเมื่อเลิกจ้าง ลูกจ้างที่อยู่ระหว่างทดลองงานเลย ในเมื่อกฎหมายไม่ได้กำหนดไว้ จะไปตีความว่าทำได้ และให้สัญญาดังกล่าวมีผลบังคับใช้นั้น ศาลท่านก็ถือว่าสัญญานั้นเป็นโมฆะ เพราะขัดกับ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 17 ตามที่กล่าวมา

หรือแม้ นายจ้างจะอ้างว่า การทำสัญญากำหนดการทดลองงาน 120 วันนั้น เป็นเหมือนทำสัญญาจ้างแบบมีกำหนดระยะเวลา ดังนั้นเมื่อครบกำหนด 120 วัน หากผลงานไม่ดีก็เลิกจ้างได้เลย เพราะครบกำหนดตามสัญญาแล้ว ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะตีความมาตรา 17 วรรคหนึ่งผิด ตรงข้อความที่ว่า “สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างโดยมิต้องบอกกล่าว ล่วงหน้า”

อย่างไรก็ดี ศาลท่านมีการตีความที่ต่างออกไป ซึ่งมีแนวฎีกาออกมาแล้วว่า ไม่ถือว่าการกำหนดการทดลองงานแบบ “ไม่เกิน 120 วัน” เป็น “สัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลา” เหตุก็เพราะในช่วงระหว่าง 120 วันที่ว่านี้ นายจ้างมีสิทธิจะเลิกจ้างเมื่อไหร่ก็ได้ หรือไม่เลิกจ้างก็ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วศาลจึงไม่ถือว่า สัญญาจ้างแบบกำหนดระยะเวลาทดลองงาน เป็นสัญญาที่มีกำหนดระยะเวลา

แต่ถึง แม้จะมีฎีกาออกมาเป็นแนวไว้แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าการถูกเลิกจ้างจะต้องมีการบอกกล่าวล่วงหน้าทุกกรณี หากคุณทำผิดตามมาตรา 119 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 นายจ้างสามารถเลิกจ้างได้ทันที โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า หรือจ่ายเงินชดเชยใด ๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นลูกจ้างที่อยู่ในช่วงทดลองงาน หรือถูกบรรจุเป็นพนักงานประจำแล้วก็ตาม

สรุปแล้ว การเลิกจ้างลูกจ้างระหว่างทดลองงานจึงแยกเป็น 2 กรณีใหญ่ ๆ คือ

  1. กรณีที่ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า คือกรณีที่ลูกจ้างได้กระทำผิดอย่างใดอย่างหนึ่งตามมาตรา 119
  2. กรณี ที่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า คือการไม่ผ่านการทดลองงาน เนื่องจากผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะอาจขาดความรู้ ความสามารถหรือคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด

ดัง นั้น หากคุณถูกเลิกจ้างระหว่างทดลองงานโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าก่อนหนึ่งงวดค่า จ้าง คุณมีสิทธิ์ได้เงินแทน ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า โดยนับระยะเวลาการทำงาน ตั้งแต่วันเข้าทำงานเป็นลูกจ้าง จนถึงวันเลิกจ้างเป็นระยะเวลาทำงาน เพื่อเป็นฐานในการจ่ายค่าชดเชย


credit : jobsdb.com

Wednesday, June 24, 2009

แผนที่ตลาดนัดกรมชลประทาน

หลังจากที่ผมเปิดเรื่องราวของตลาดนัดกรมชลประทาน ซึ่งเป็นตลาดนัดช่วงเช้าที่ขึ้นชื่อของชาวจังหวัดนนทบุรี หลาย ๆ ท่านได้สอบถามถึงตำแหน่งที่ตลาด วันนี้มีเวลานิดหน่อยก็ของเอามาฝาก การเดินทางก็ขออธิบายคราว ๆ ดังนี้น๊ะครับ

ถ้ามาจากถนนแจ้งวัฒนะ
ให้ขับรถตรงมาจนถึงห้าแยกปากเกร็ดแล้วเลี้ยวซ้าย(เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด) ถ้ามองเห็นสะพานสูง ๆ ก็ให้ชิดซ้ายไว้น๊ะครับ เดี๋ยวข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้วจะยุ่ง เพราะสะพานนั่นเป็นสะพานยาวข้ามแม่น้ำเรียกว่า สะพานพระราม 4 ครับ พอเลี้ยวซ้ายจากห้าแยกปากเกร็ดแล้วก็ขับตรงไปเรื่อย ๆ เลยครับ จะผ่านหน้าวัดชลประทาน(ทางซ้าย) และกรมชลประทาน(ทางขวา) ถ้าขับรถตรงไปอีกซัก 200 เมตรทางซ้ายมือก็จะเป็นตลาดนัดกรมชลประทานครับ แต่คงหาที่จอดค่อนข้างยากหน่่อยครับ ทางที่ดีให้ขับรถเข้าทางกรมชลประทาน(รอสัญญาณไฟแดงให้เลี้ยวขวา) ผ่านป้อมยามเพื่อรับบัตร หลังจากนั้นจากเห็นทางแยกซ้าย ให้เลี้ยวซ้าย และเลี้ยวซ้ายอีกทีที่แยกแรกครับ(ห่างกันประมาณ 50 เมตร) หลังจากนั้นก็ขับไปตามทางเรื่อย ๆ เลยครับประมาณครึ่งกิโลได้ ก็ให้หาที่จอด แถมนั้นจะมีทางออกซึ่งจะตรงกันข้ามกับตลาดนัดกรมชลประทานพอดี


ถ้ามาจากถนนงามวงศ์วาน
พอถึงแยกแครายให้เลี้ยวขวาแล้วขับตรงไปเรื่อย ๆ จากผ่านสามแยกสนามบินน้ำ แยกถนนสามัคคี แล้วหลังจากนั้นก็จะมีสะพานข้ามคลองก็ให้ชะลอชิดซ้ายไปเรื่อย ๆ ทางขวาจะเป็นตลาดนัดกรมชลประทาน ที่บอกให้ชะลอก็เพราะว่าอาจจะมีที่จอดริมข้างทางนั่นแหละครับ(จอดได้) ถ้าไม่มีที่จอดก็ให้ขับชิดซ้ายไปเรื่อย ๆ จนถึงสัญญาณไฟจราจรก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้ากรมชลประทานเหมือนที่กล่าวมาแล้วครับ

ถ้ามาจากรัตนาธิเบศร์
เหมือนกันกับมาจากงามวงศ์วาน ต่างกันที่พอถึงแยกแครายก็ให้เลี้ยวซ้ายเท่านั้นเองครับ

ถ้ามาจากสะพานพระราม 5
หลังจากลงสะพานก็ขับรถตรงมาเรื่อย ๆ ก็จะมาถึงแยกแครายเช่นเดียวกัน แต่ให้ตรงไปก็จะไปถึงจุดหมายเองครับ

สำหรับตลาดนัดกรมชลประทานจะเปิดประมาณ 6 โมงเช้าถึงประมาณ 10 โมง ถ้าจะให้ดีก็ให้ไปประมาณซัก 6 โมงครึ่งก็น่าจะดีกว่า เพราะอากาศจะไม่ร้อนและร้านค้าต่าง ๆ ก็น่าจะตั้งแผงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีข้อสงสัยประการใดก็คอมเม้นท์ได้น๊ะครับ จะหาคำตอบให้อีกที


Tuesday, June 9, 2009

ส่งเงินสมทบประกันสังคมงวดแรก 432 บาท

วันนี้เป็นวันที่ผมส่งเงินสมทบประกันสังคมงวดแรกเป็นจำนวนเงิน 432 บาทหลังจากที่ตกงานมาแล้ว 7 เดือนเต็ม ก่อนที่จะส่งเงินสมทบด้วยตนเองก็ต้องสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ให้เรียบร้อยก่อน แต่ต้องไม่เกิน 6 เดือนหลังจากออกจากงาน มิเช่นนั้นแล้วก็จะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตนลงทันที

สำหรับสถานที่ที่ผมไปส่งเงินสมทบงวดแรก ก็คือประกันสังคมที่จังหวัดนนทบุรีซึ่งตั้งอยู่ภายในศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี หรือศาลากลางจังหวัดนนทบุรีแห่งใหม่นั่นเอง อยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้ ๆ กับห้างโลตัส ตรงกันข้ามกับสถานีดาวเทียมไทคมนั่นแหละครับ

ตอนแรกจริง ๆ แล้วผมตั้งใจจะส่งเงินสมทบโดยใช้บริการของธนาคารกรุึงไทย แต่ดูจากข้อมูลแล้วเห็นบอกว่าจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท(อันนี้ยังไม่ค่อยแน่ใจ เอาไว้คราวหน้าจะลองดูถ้าไม่มีเวลาไปที่ประักันสังคมด้วยตนเอง) แต่ถ้าจะส่งเงินสมทบผ่านทางธนาคารเลยก็น่าจะสะดวกดีเหมือนกันเพราะถ้าจะไปที่ประกันสังคมในช่วงกลางเดือนกับปลายเดือนหรือต้นเดือน ผู้ใช้บริการจะเยอะมาก(อันนี้ก็เห็นเขาติดประกาศไว้ สายตาเหลือบไปเห็นก็เลยเก็บข้อมูลมาฝาก)

สำหรับผมเอง ผมก็ยังอยากให้หลาย ๆ คนที่ยังไม่ได้มีงานทำ หรือทำธุรกิจเอง ก็ลองต่อประกันสังคมดูก่อนน๊ะครับ เพราะเสียเงินแค่ 432 บาทเท่านั้นเอง แต่มีความคุ้มครองให้กับเราหลาย ๆ อย่าง ถ้าจะเปลี่ยนใจทีหลังก็ไม่ต้องส่งต่อ แล้วค่อย ๆ คิดทีหลังก็ได้ อย่าให้สิ่งนี้สูญเสียไปโดยที่เรายังไม่ได้คิดอะไรให้ถี่ถ้วนน๊ะครับ เอาเป็นว่า ให้ไปยื่นเรื่องเปลี่ยนผู้ประกันตนเป็นมาตรา 39 แล้วส่งเงินสมทบไปก่อน แล้วค่อยคิดทีหลังว่าจะเอายังไงอีกต่อไปน่าจะดีกว่าน๊ะครับ

Sunday, June 7, 2009

สำเพ็ง คลองถม พาหุรัด เยาวราช

หลาย ๆ คนสงสัยว่า สำเพ็ง คลองถม พาหุรัด สะพานเหล็ก เยาวราช อยู่ตรงไหนของกรุงเทพฯ ผมก็เลยถือโอกาสเอาแผนที่มาฝากหน่อย แต่เป็นของ google map

สำเพ็จ จะอยู่ที่ซอยวานิช 1 สามารถเดินยาวได้เลย แต่จะมีถนนราชวงค์คั่นอยู่ต้องข้ามไปอีกฝั่ง คือจะอยู่ทั้งฝั่งจักรวรรดิ์และเยาราชนั่นเอง

คลองถม จะอยู่บริเวณวัดตึก(วัดชนะสงคราม) ถนนมหาจักร และมีถนนเจริญกรุงคั่นอยู่เช่นกัน ถ้าเดินข้ามไปก็จะถึงโรงพยาบาลกลาง

พาหุรัด ตำแหน่งก็จะอยู่ที่ถนนพาหุรัด ตามชื่อถนนเลยครับ แต่แหล่งขายของจะอยู่ในซอยเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเดินมาจากทางสำเพ็ง(ตรอกหัวเม็ด) ก็จะอยู่ทางซ้ายมือ ให้เดินดูสินค้าที่ซอยไปเรื่อย ๆ ก็จะออกมาทางเพาะช่างได้ครับ

สะพานเหล็ก จะอยู่ประมาณถนนมหาไชยตามแผนที่ แต่ถ้าคนแถวนั้นจะเรียกกันว่าถนนจักรเพชรมากกว่า ถ้ามาจากตรอกหัวเม็ด ก็ให้เลี้ยวขวา(ไม่ตรงไปทางพาหุรัด) ก็จะเห็นสี่แยกแรกให้ข้ามตรงไปก็จะถึงสะพานเหล็กครับ

เยาวราช อันนี้คงไม่ต้องบอกน๊ะครับ ว่าอยู่ที่ถนนเยาวราช หรือจะเดินเลียบถนนเจริญกรุงมาก็ได้ แต่ร้านหลัก ๆ จะอยู่บนถนนเยาวราชเสียส่วนใหญ่ ยกเว้นบะหมี่จับกัง จะอยู่ริมถนนเจริญกรุง

ขอย้ำอีกครั้งครับว่า อย่าลืมสมัครสิทธิประกันสังคม มาตรา 39 ภายใน 6 เดือน

ผมไม่ได้อัปเดทบล็อคมานานพอสมควร วันนี้ก็พออัปเดทกันหน่อยพอเป็นพิธี สำหรับผมเองช่วงนี้ก็จะเป็นเดือนแรกที่ผมต้องส่งเงินประกันสังคมด้วยตนเอง เพราะหมดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ใช้สิทธิเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 และต้องจ่ายภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับความคุ้มครองจากการสมัคร เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 มี 6 กรณี คือ ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตายไม่เนื่องจากการทำงาน สงเคราะห์บุตร คลอดบุตร และชราภาพ โดยผู้ประกันตนจะต้องส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง สำหรับการส่งเงินสมทบในส่วนของ มาตรา 39 นั้น สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดให้ผู้ประกันตน ส่งเงินสมทบในอัตราเท่ากันทุกเดือน เดือนละ 432 บาท โดยผู้ประกันตนสามารถส่งเงินสมทบได้ 4 วิธี คือ

1.จ่าย ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด
2.จ่ายเงินทางธนาณัติ
3. ส่งผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)
4.เปิดบัญชีประเภทออมทรัพย์และให้ทางธนาคารหักจากบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้ประกันตนจะต้องมีเงินให้เพียงพอเพื่อหักเงินสมทบ จำนวน 432 บาท และค่าธรรมเนียม 10 บาท ภายวันที่ 1 ถึงวันที่ 15 ของเดือนถัดไป โดยธนาคารจะจัดส่งใบเสร็จรับเงินให้ผู้ประกันตนทางไปรษณีย์ หากนำส่งเงินสมทบดังกล่าวเกินกำหนดจะต้องเสียเงินเพิ่ม ร้อยละ 2 ต่อเดือน


หากผู้ประกันตนต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนประกันสังคม 1506 ติดต่อทางระบบโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติ ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรงให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา 07.00–19.00 น. หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.sso.go.th

 

© 2013 คนตกงาน. All rights resevered. Designed by Templateism

Back To Top