เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า ผมต้องยื่นเรื่องเสียภาษีอากร วัตถุประสงค์ในการยื่นก็เพื่อที่จะขอคืนภาษีส่วนที่ชำระเกิน ในกรณีของผมคือการลาออกจากงาน และไม่ได้รับเงินชดเชยใด ๆ ทั้งสิ้น(ก็อยากลาออกเองนิ ไม่เห็นมีใครชวน) แต่เรื่องลาออกมันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่มีความสงสัยบางประการ
วันนั้นผ่านมาประมาณเกือบสองอาทิตย์น่าจะได้ ผมต้องไปยื่นเอกสารเพิ่มเติมในกรณีลาออกจากงาน และหลักฐานรายรับในปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นผมก็เคยไปครั้งหนึ่ง แต่เอกสารไม่ครบก็เลยต้่องบากหน้าไปที่ทำงานเก่า(จริง ๆ ก็ไม่อยากจะโผล่ไปซักเท่าไร) เจ้าหน้าที่สรรพากรถามคำถามผมเหมือนกับไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด คำถามนั้นก็คือ "ถ้ามีเงิืนชดเชยจากการลาออกจากงานก็ให้ใส่มาด้วย" ผมก็ตอบกลับไปว่า "ไม่มีครับในส่วนนี้" เจ้าหน้าที่ก็ยังบอกว่า "ถ้ามีก็ให้ขอหลักฐานมาด้วย" ผมเองก็เป็นงงว่าไม่เชื่อกันหรือไง
ครั้นถึงวันที่ส่งเอกสารเพิ่มเติมทั้งหมด ผมก็ยังได้รับคำถามเดียวกัน คือ ไม่มีเงินชดเชยการออกจากงานเหรอ ผมก็บอกว่า "ไม่มีครับ ดูที่นี่ได้รายรับรวมทั้งปี"

แต่สำหรับผมแล้ว ผมว่ามันไม่จบแค่นี้หรอกครับในความคิดของผม
ผมคิดว่า เงินชดเชยอะไรต่าง ๆ นานา ที่คนทำงานจะได้รับไม่ควรจะนำไปคิดเสียภาษี เพราะนั่นหมายถึงการทำลายกันทางอ้อม บางคนที่ต้องออกจากงานด้วยสถานะการบังคับ หรือถูกปลดจากงาน อนาคตของคน ๆ นั้นก็ยังไม่เห็นหนทางอะไรชัดเจน การที่จะต้องเสียภาษีก็เหมือนกับเป็นบั่นทอนชีวิตของเขาไปด้วยเช่นกัน หลายคนอาจจะคิดว่า นี่เป็นความคิดของคนที่เห็นแก่ตัว แต่ถ้าคุณไม่ตกอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้ การคิดอย่างนั้นของคุณก็คงไม่ผิด และสำหรับคนที่คิดอย่างนั้น ผมอยากให้สักวันหนึ่ง คุณอยู่ในสถานะการณ์เดียวกันกับผม แล้วคุณจะรู้ว่ามันเป็นอย่างไร
ผมมีเวลาไม่มากที่่จะเขียนบทความนี้ บางถ้อยคำอาจจะดูไม่สุภาพก็ต้องขออภัย แต่ให้เข้าใจถึงหลักใหญ่ใจความที่ผมต้องการจะสื่อเท่านั้นเป็นพอครับ หากผมเข้าใจอะไรผิดก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment