แน่นอนครับว่า เมื่อไม่มีรายรับ เงินที่เรามีอยู่ก็จะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ แ่ต่จะช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับภาระของแต่ละคน ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้วางแผนไว้ว่า เราอาจจะตกงานอยู่ประมาณ 2 ปี และต้องบริหารเงินที่มีอยู่ให้สามารถอยู่ได้ถึง 2 ปี กันเงินส่วนหนึ่งไว้ด้วยสำหรับนำไปใช้ในกรณีฉุกเฉินน๊ะครับ
จากบทความที่ผ่านมา เราได้รับเงินมาจาก 3 ทางด้วยกัน นั่นคือ พักร้อนคงเหลือ, ประกันสังคม และภาษีส่วนที่ชำระไว้เกิน
แล้วมันมากพอที่จะทำให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้ถึง 2 ปีหรือเปล่า ถ้าคิดแล้วว่ายังไงก็ทำไม่ได้ ก็อย่าท้อแท้ ลองมองโลกในแง่ดีว่า คุณอาจจะมีทางออกที่ดีกว่าในระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ก็ลองตั้งไว้ประมาณปีครึ่งก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าเราจะตั้งไว้เท่าไรน๊ะครับ แต่อย่าให้่มันสั้นมากจนเกินไป
การลดค่าใช้จ่ายเบื้องต้น
1. ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ สำหรับคนที่เคยใช้น้ำใช้ไฟอย่างไม่ฟุ่มเฟือย ก็คงจะต้องหาทางประหยัดตั้งแต่วันนี้ เพราะอย่างน้อย ถ้าทำได้เข้าเป้าที่รัฐบาลกำหนด นั่นคือ ใช้น้ำไม่เกิน 30 หน่วย และไฟไม่เกิน 90 หน่วย เท่านี้เราก็ได้ใช้น้ำไฟฟรี ๆ แล้วครับ ส่วนวิธีการประหยัดน้ำไฟ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะบริหาร ให้พิจารณาคร่าว ๆ ในเรื่องของการซักผ้า, ล้างจาน, ล้างรถ,การกดชักโครก, อาบน้ำ, แอร์, รีดผ้า, การทำกับข้าว ดูว่าจะประหยัดในส่วนไหนได้บ้าง
2. สุรา บุหรี่ น้ำอัดลม กาแฟ - ลด ละ เลิก
3. ผงซักฟอก ยาสีฟัน น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ ยาสระผม ทิชชู หรือมีอะไรอีกแล้วแต่จะคิดได้ ให้ซื้อเป็นแพ็ค ประหยัดเงินกว่า แต่ไม่ควรจะซื้อมาจนล้นบ้าน ปรับเปลี่ยนยี่ห้อที่ราคาถูกลง หรือรอจังหวะที่แต่ล่ะห้างลดราคา แล้วซื้อมาตุนเอาไว้ก็ประหยัดได้อีกทางหนึ่ง
4. เดินทางด้วยรถเมล์ดีกว่า อาจจะเหนื่อยหน่อย ร้อนนิด จะก็ไม่มีค่าใช้่จ่าย เพราะรัฐบาลยังให้นั่งฟรีอยู่
5. เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องทำเอง งดเข้าร้านเสริมสวย งดใช้บริการซักรีด แต่ต้องขอร้องอยู่อย่างว่า ถ้าจะตัดผม ก็ไปที่ร้านเถอะครับ อย่าลำบากไปตัดเองเลย ถ้าคิดจะตัดเอง ผมว่าไม่ตัดดีกว่า
ยังคิดไม่ออกว่าควรจะประหยัดอะไรเพิ่มอีก เอาไว้คิดออกแล้วจะมาเพิ่มเติมให้ น๊ะครับ
*ลืมไปอีกอย่าง ในระหว่างนี้ ก็พยายามหางานไปเรื่อย ๆ ด้วยน๊ะครับ ในส่วนของการหางาน เดี๋ยวผมจะมีบทความเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งครับ
Tuesday, January 27, 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความ
Post a Comment