Saturday, August 29, 2009

การเผชิญหน้ากับภาษาอังกฤษ

หลังจากที่ผมไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทหนึ่งเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี ความน่าจะเป็นที่จะได้งานก็มีอยู่ค่อนข้างสูง แต่ปัญหา คือ ทางบริษัทต้องการคนที่ค่อนข้างเก่งภาษาอังกฤษ ซึ่งถ้าผ่านการสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้วจะเรียกไปทดสอบภาษาอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง

คำพูดบางคำที่ผมจำได้ในระหว่างการสัมภาษณ์ก็คือ "จะมี notebook ให้ผม 1 เครื่อง" "ระยะเวลาการทดสอบภาษาอังกฤษประมาณ 2 ชั่วโมง" หลังจากทบทวนในสิ่งที่คนสัมภาษณ์บอกมา ผมก็นึกได้ทันทีว่าน่าจะเป็น TOEIC TEST อย่างแน่นอน เพราะเคยผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษด้วย TOEIC มาแล้ว 2-3 ครั้งก็พอจะทราบว่าปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ความเร็วในการทำข้อสอบ อย่างนี้ก็ต้องเตรียมความพร้อมให้กับตนเอง ซึ่งผมก็มีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับ TOEIC
TOEIC ย่อมาจากคำว่า Test of English for International Communication จัดทำขึ้นโดย Educational Testing Service (ETS) ที่ Princeton , New Jersey ในสหรัฐอเมริกา
ข้อสอบ TOEIC จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ การฟังและการอ่าน โดยอาศัยหลักการคือ ถ้าเราฟังได้ก็สามารถพูดได้ และถ้าเราอ่านได้ก็สามารถเขียนได้ ซึ่งถ้ามองแบบรวม ๆ แล้ว ข้อสอบ TOEIC ก็คือ การทดสอบการพูด ฟัง อ่านและเขียนนั่นเอง

ขั้นตอนที่ 2 ศึกษารายละเอียดของแบบทดสอบ
แบบทดสอบของ TOEIC จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การฟังและการอ่านดังที่กล่าวมาข้างต้น มาเริ่มดูแต่ละส่วนกันครับ
การฟัง(Listening Comprehension) มีทั้งหมด 100 ข้อ ประกอบด้วย 4 ส่วนคือ
  1. รูปภาพ(photographs) มี 20 ข้อ
  2. คำถาม(question-response) มี 30 ข้อ
  3. บทสนทนา(short conversations) มี 30 ข้อ
  4. บทพูด(short talk) มี 20 ข้อ
การทดสอบการฟังจะให้เวลาทั้งหมด 45 นาที(495 คะแนน)

การอ่าน(Reading Comprehension) มีทั้งหมด 100 ข้อเช่นกัน ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
  1. ประโยคที่ไม่สมบูรณ์(incomplete sentences) มี 40 ข้อ
  2. ข้อความ(reading passages) มี 40 ข้อ
  3. เลือกคำผิด(error recognition) มี 20 ข้อ
การทดสอบการอ่านจะให้เวลาทั้งหมด 1 ชั่วโมง 15 นาที(495 คะแนน)

ขั้นตอนที่ 3 ภาคปฎิบัติ
การเตรียมความพร้อมภาคปฏิบัติก็คงจะต้องแบ่งเวลาในการฝึกฝนกันหน่อย เช่น ฝึกฟังในช่วงเช้า และฝึกอ่านในช่วงบ่าย แบ่งเวลาสำหรับพักผ่อนด้วยจะได้ไม่เครียด

เว็ปไซด์สำหรับฝึกฝนที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ ถ้ามีเพิ่มก็จะมาเพิ่มทีหลังครับ
http://eleaston.com/standtestqz.html#toeic
http://www.1-language.com/materials/toeic/index.htm
http://www.4tests.com/exams/examdetail.asp?eid=74
http://www.docnmail.com/tests/language/toeic.htm
http://www.encomiuminteractive.com/Shockwave/AlexisDemo/
http://www.englishclub.com/esl-exams/ets-toeic.htm
http://www.english-test.net/toeic/index2.html
http://www.free-english.com/TOEIC-practice-test.aspx
http://www.toeiccity.com/

ขั้นตอนที่ 4 เริ่มทดสอบจริง
หลังจากที่เตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้วก็ลองมาทดสอบจริงแบบเล่น ๆ กันหน่อย ให้ลองตามเว็บไซด์นี้ดูครับ น่าจะโอเคแล้วน๊ะ

เตรียมสอบ TOEIC กับเคลฟเวอร์เลิร์น เพื่อคะแนน TOEIC ที่ดีขึ้น

ผมคาดหวังคะแนนให้อยู่ที่ประมาณ 750 คะแนนก็น่าจะเพียงพอ แต่ถ้าจะให้ใช้ได้หน่อยก็ขอซัก 800 คะแนน ยังไงก็จะต้องพยายามให้ได้ครับ สุดท้าย ขอให้ผมโชคดี!!!

Tuesday, August 25, 2009

รวมเว็บไซด์สินค้า 20 บาท

อยากขายสินค้าราคา 20 บาท ผมต้องขอออกตัวก่อนน๊ะครับว่า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางเว็บไซด์สินค้า 20 บาทที่ผมได้หามา ก่อนหน้านี้เคยคิดที่จะหาของมาขายเหมือนกันและก็สงสัยว่าคนที่ขายของทุกอย่าง 20 บาทนี่เขาไปรับของมาจากไหน ก็เลยมองหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตดูก็เห็นว่ามีของที่สามารถนำมาขายได้ในราคา 20 บาทอยู่หลายแห่งเหมือนกัน แต่ผมไม่รับประกันน๊ะครับว่าของที่ปรากฏอยู่ในแต่ละเว็บที่ผมหามาจะมีราคาถูกที่สุด ถือว่าเป็นบรรทัดฐานของราคาเพื่อที่จะสรรหาสินค้ามาขายก็แล้วกันน๊ะครับ

ร้านราคาโอเค - ขายส่ง ทุกอย่าง 10บาท ทุกอย่าง 20บาท สำเพ็ง ตะกร้าพลาสติก จานพลาสติก สแตนเลส คลองถม เครื่องครัว จาน ชาม เครื่องเขียน ขายส่ง สินค้าราคาถูก ตลาดนัด ขายส่งทุกอย่าง สินค้านำเข้าจากจีน สินค้าจีน สินค้าราคาถูก ร้านโอเค ปากน้ำ สมุปราการ บริการส่ง

ร้านกั๊ตซี่กิฟท์ - ทุกอย่าง10บาท ทุกอย่าง15บาท ทุกอย่าง20บาท เครื่องเขียน กิฟท์ นาฬิกา ปากกา ปากกาเจล ปากกาเคมี ดินสอ ดินสอกด ดินสอต่อไส้ ดินสอสี สีเทียน ยางลบ กบเหลาดินสอ ไม้บรรทัด กรรไกร คัทเตอร์ กรอบรูป กล่องใส่นามบัตร สมุดโทรศัพท์ สติ๊กเกอร์ กิฟ กาว กล่องดินสอ วงเวียน stationery giftshop clock pen pen-gel permanent hilight pencil apollo colour eraser cutter scissor ruler 15 baht ขายส่ง เครื่องเขียน ของเล่น ของกิฟท์ชอป และสินค้าอื่นๆ ทุกอย่าง10บาท ทุกอย่าง15บาท ทุกอย่าง20บาท stationary giftshop and Other everything 10-20 Baht

ร้าน LN
- ทุกอย่าง 20 บาท ขายส่ง เครื่องเขียน เครื่องครัว เครื่องมือช่าง ของเล่น อื่นๆ

ร้าน JPP - ทุกอย่าง 20 บาท,20,ทุกอย่าง 20 ,สินค้านำเข้า,สินค้าจากจีน,ทุกอย่าง 10 บาท,ทุกอย่าง 20 บาท,ของใช้ในครัวเรือน,สินค้าพลาสติก,เครื่องครัว,ของใช้,ของเล่น,ของเล่นเด็ก,สินค้าตลาดนัด,เครื่องเขียน,เครื่องมือช่าง,สินค้าเบ็คเตล็ด,นำเข้า,กระจก,แก้ว,ชาม,มีด,กรรไกร,ค้อน,ไม้,ขัน,พลาสติก,ดินสอ,ปากกา,ขายส่ง,กิฟช็อป, สินค้าโปรโมชั่น, ราคาพิเศษ , ลดราคา, ถูก

ร้านโอเค - ขายส่ง , สินค้า , ราคา , ถูก , นำเข้า , สินค้าจีน , สำเพ็ง , ทุกอย่าง 10บาท , ทุกอย่าง 20บาท , สินค้าราคาถูก , คลองถม , จาน , ชาม , ช้อน , ร่ม , กะละมัง , พลาสติก , สินค้าสำเพ็ง , สินค้าคลองถม , เครื่องครัว , ของใช้ส่วนตัว , เครื่องมือช่าง , เครื่องเขียน , กิ๊ฟช็อป , ของเล่น , กีฬา , ขายส่ง สินค้า สำเพ็ง ราคาถูก คลองถม ทุกอย่าง 10 บาท 20 บาท กิ๊ฟช็อป เครื่องเขียน ของใช้ส่วนตัว เครื่องครัว เครื่องมือช่าง ของเล่น ของแต่งตัว

ร้าน NB Fashion
- Dress สไตล์คุณหนู แฟชั่นดารา, เสื้อยืดสกรีน 40 บาท, สายเดี่ยว + เสื้อกล้าม 20 บาท, แฟชั่นสาวหวาน สไตล์ทำงาน, เสื้อแฟชั่น Intrend ไม่มี เอาท์, แฟชั่นน่ารัก สำหรับสาวอวบ สาวอ้วน, เสื้อยืดชายสีล้วน, กางเกงขาสั้น กระโปรงแฟชั่น ฮิต มั๊กๆๆ, Sexy Fashion สำหรับสาวเปรี้ยววว, แฟชั่นเกาหลี ฮ่องกง เสื้อผ้าแบรนด์ดัง, เสื้อโปโลผู้ชาย Size M, เสื้อโปโลผู้ชาย +เสื้อยืด Size L, เสื้อยืด - เสื้อเชิ๊ตผู้ชาย Size XL - XXL, กางเกงยีนส์ มือสอง ตัดแต่งใหม่ เก๋มั๊กๆ, สินค้าไม่ผ่านQC ราคาถูกม๊ากก, เครื่องประดับ ราคาถูกกว่าสำเพ็ง

ร้าน fashiondd
- ขายส่งเสื้อผ้า,ขายส่งเสื้อยืด,ขายส่งสายเดี่ยว,เสื้อผ้าขายส่ง,เสื้อยึดขายส่ง,สายเดี่ยวขายส่ง,ขายส่งเสื้อแฟชั่น,ขายส่งกางเกงยีนส์,ขายส่งกระโปรง,ขายส่งกางเกง,fashion,เสื้อแฟชั่นราคาถูก,เสื้อ,แฟชั่น,ประตูน้ำ,ขายส่ง, ขายส่งเสื้อผ้า ราคาถูกที่สุด เสื้อผ้าแฟชั่น เสื้อยืด สายเดี่ยว เสื้อกล้าม แฟชั่น ชุดเดรส ชุดแซก โปโล กางเกง วัยรุ่น วัยทำงาน แฟชั่นเกาหลี ชีฟอง เสื้อสีพื้น กระเป๋าแฟชั่น ส่งฟรีทั่วประเทศ

สำหรับร้านที่ขายเสื้อผ้าก็มีราคา 20 บาทอยู่เหมือนกัน แต่คงต้องขายมากกว่า 20 บาท อาจจะเป็น 39 บาทก็ราคาสวยดีได้กำไรเกือบเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม ผมคงต้องขอย้ำอีกครั้งครับว่าให้ดูเป็นบรรทัดฐานของราคาเท่านั้นน๊ะครับ แต่ถ้าใครจะสั่งซื้อกับทางเว็บและเห็นว่าสะดวกดี ทำกำไรได้ ก็แล้วแต่ท่านน๊ะครับ

และอีกอย่างหนึ่ง ขอให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านที่ผมหามามีตัวตนและความน่าเชื่อถือด้วยน๊ะครับ เพราะผมก็หามาให้ดูเท่านั้นไม่ได้ตรวจสอบอะไร ถ้าได้ราคาแล้วก็ลองไปเดินดูแถวสำเพ็ง โบ๊เบ๊ และประตูน้ำ เพื่อเปรียบเทียบราคาดูอีกที ถ้าดูแล้วไม่คุ้มการเดินทางก็สั่งซื้อทางเว็บจะสะดวกกว่า ถ้าซื้อเยอะ ๆ ก็ลองต่อลองกันดูว่าจะได้ราคาต่ำลงมาหาเปล่า

ขอให้โชคดีมีชัยกันน๊ะครับ

Sunday, August 23, 2009

เตรียมตัวสัมภาษณ์งาน

สัมภาษณ์งาน วันนี้เป็นวันที่ผมตั้งใจจะทบทวนความรู้และประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เพื่อใช้ในการสัมภาษณ์งานที่นัดไว้ในวันพุธหน้า เนื่องจากห่างหายจากการสัมภาษณ์มากว่า 5 เดือน ทั้งความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ ก็เลือนหายไปกับกาลเวลา ขั้นตอนที่ผมจะทำการทบทวนตัวเองก็มีดังนี้

อันดับแรก อ่านรายละเอียดของงานที่สมัครให้ชัดเจนว่า Scope and Responsibilities ของงานนี้มีอะไรบ้าง รวมถึงเรื่องของ Qualifications ที่ต้องการ จะได้นำพาตัวเองให้เหมาะกับการสัมภาษณ์ที่จะเกิดขึ้น

อันดับที่สอง เข้าไปดูรายละเอียดเว็บไซด์ของบริษัทที่สมัครและศึกษาหน่วยงานที่เราสมัครไว้เพื่อเป็นแนวทางในการหาข้อมูลเพิ่มเติม

อันดับที่สาม ทบทวน Profiles(resume) ที่เราได้ส่งสมัครไปถึงความรู้ความสามารถของตนเอง ส่วนใหญ่แล้วคนสัมภาษณ์จะถามเกี่ยวกับความรู้ความสามารถที่เราเขียนไว้ใน Profiles ของเรา เพราะฉะนั้น เราต้องเข้าใจในสิ่งที่เราได้เขียนไปอย่างท่องแท้ อย่าให้มีคำพูดที่ว่า "จำไม่ได้แล้ว เพราะไม่ได้ทำมานานแล้ว" หรือ "ผมไม่ค่อยมั่นใจนัก" ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใน Profiles เรา คนสัมภาษณ์จะเชื่อว่าเรามีความเข้าใจจริง ๆ

อันดับที่สี่ นั่งทบทวนและหาข้อมูลทั้งหมดเพิ่มเติมจากแหล่งต่าง ๆ สำหรับผมก็ใช้วิธีค้นหาจากเว็บไซด์นี่แหละครับ ไม่ต้องเดินทางไปไหน

อันดับที่ห้า จัดเตรียมชุดและเอกสารที่จำเป็นให้เรียบร้อยและทำจิตใจให้สงบหลังจากที่เราได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราตั้งใจไว้แล้ว

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมหวั่นใจก็คือ การสัมภาษณ์งานอาจจะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมก็ยังรู้ตัวเองว่า ไม่สันทัดในเรื่องภาษาอังกฤษมากนัก และก็ต้องพยายามฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา แต่คงไม่สามารถจะเร่งวันเร่งคืนให้เก่งภาษาอังกฤษได้ภายในชั่วข้ามคืน เรื่องนี้ก็คงต้องปล่อยให้มันเป็นไป เอาไว้ไปแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอา แต่ถึงอย่างไรผมก็ต้องเตรียมในเรื่องของภาษาไปเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่นการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษและประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา เป็นต้น

สถานที่ที่นัดสัมภาษณ์จะอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค(บ้านหว้า) ระยะทางจากบ้านก็ประมาณ 60 กิโลเมตร ทำแผนที่มาให้ดูหน่อยเผื่อจะมีคนอยากรู้จัก

แผนที่นิคมอุตสาหรรมไฮเทค-บางประอิน-โรจนะ

Wednesday, August 12, 2009

กลอนพาไปในยามเหงา อารมณ์เศร้าเล็ก ๆ ก็บังเกิด

บังเอิญว่าวันนี้นั่งฟังเพลงมากไปหน่อย เพราะค่อนข้างจะเหนื่อยกับการทำงานส่วนตัวเป็นระยะเวลายาวนานมากกกกก ถือว่าวันนี้เป็นวันพักผ่อนด้วย มีโอกาสได้นั่งคิดอะไรเล่น ๆ แบบเหงา ๆ เศร้า ๆ ยังไงพิกล อารมณ์มันก็เลยพาไปให้เขียนกลอนเล่น ๆ จะได้เก็บไว้ดูเองในวันข้างหน้า ถ้าหากดูแล้วรกหูรกตาก็ไม่อย่าไปใส่ใจเลยน๊ะครับ อย่างน้อยผมก็หาความสุขได้ในวันนี้แหละครับ 12 สค. 2552 วันแม่

ตกงานใช่ชีวิตจะสูญสิ้น
ก็จะดิ้นรนค้นหาหนทาง
แม้ข้างหน้านั้นดูช่างรกร้าง
ก็จะถางทางเดินก้าวต่อไป
ไม่ขอฝากชีวิตกับความฝัน
คงมุ่งมั่นฟันฝ่าหาจุดหมาย
แม้เหน็ดเหนื่อยลำบากก็เพียงแค่กาย
ขอให้ใจไม่หวั่นไหวก็เพียงพอ
หากจะมีซักวันที่ฉันเศร้า
ดูเงียบเหงาในมุมหนึ่งอยากร้องขอ
หากจะมีซักวันที่รีรอ
อยากจะขอเพียงหนึ่งวันที่ช้ำใจ
เริ่มต้นทำวันนี้และเดี๋ยวนี้
อะไรดี ก็ยังไม่มีจุดหมาย
ทำไปเถอะทำไปก่อนค่อยทำไป
แล้วหัวใจจะพาไปถูกทิศทาง
ถ้าไม่เริ่มต้นทำกันวันนี้
ทุกนาทีผ่านไปรู้ซ่ะบ้าง
อย่าปล่อยกายปล่อยจิตให้มันว่าง
หนทางยังรออยู่ไม่ห่างไกล
ความสำเร็จนั้นต้องการเวลา
มิใช่ว่าจะรออยู่ไม่ห่างกาย
ต้องค่อยสร้าง วางแผนให้เป็นไป
คงไม่นานหวังไว้คงได้เจอ
นี่ก็ทำมานานไม่สำเร็จ
บางวันเหน็ดเหนื่อยมากจนเบอ
บางคืนเก็บไปฝันนอนละเมอ
เฮ่อ ๆ ๆ มันเหนื่อยแทบขาดใจ
ซักวันหนึ่งชีวิตจะดีขึ้น
เหมือนคนอื่นชีวิตสุขสบาย
อดทนรออีกซักนิดก็คงไหว
จะทำไง ไม่มีใครจะช่วยเรา
แต่อย่างน้อยบางอย่างก็ดีขึ้น
ไม่มีหมื่น มีหลักพัน ก็ไม่เบา
ซักวันหนึ่งวันนั้นเป็นของเรา
จะมาเล่าให้ฟังถ้าโชคดี
วันนี้ขอเป็นวันพักผ่อน
เขียนบทกลอนเล่น ๆ กันซักที
มีบทเพลงมีฝากเนื้อหาดี
อ่านดูซิ ให้กำลังใจ ดีนักเอย.....

...ถ้าไม่ลงท้ายด้วยเอย คงไม่จบซักที

เพลง/Title เนื้อเพลง: อย่ายอมแพ้
ศิลปิน/Artist: อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์

หากวันนี้เราล้มลง
ยังคงลุกขึ้นได้ใหม่
ถ้ายังคงมีหนทาง ถ้ายังมียิ้มสดใส
ก้าวไปอย่าหวั่นไหวหวาดกลัว
พร้อมทนทุกข์หมองหม่น
ผจญความมืดหมองมัว
ไม่กลัวจะฝันถึงวันใหม่

* หากวันใดอ่อนแอ ท้อแท้อย่าหวั่นไหว
ขอให้ใจไม่สิ้นหวัง
ปัญหาแม้จะหนัก ก็คงไม่เกินกำลัง
อย่าหยุดยั้งก้าวไป

** ขออย่ายอมแพ้
อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้
จงลุกขึ้นสู้ไป
จุดหมายไม่ไกลเกินจริง

(ซ้ำ *, **, **)

ตลาดนัดติดแอร์ พันธ์ทิืพย์พลาซ่า งามวงค์วาน

ผมมีโอกาสได้ไปเดินเล่นที่พันธ์ทิืพย์พลาซ่า งามวงค์วาน หลายครั้งด้วยกัน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก โดยส่วนใหญ่ผมจะเดินดูตลาดนัดติดแอร์กับคอมพิวเตอร์ ก่อนหน้านี้ก็เดินดูพระเครื่องอยู่เป็นประจำในช่วงที่กระแสจตุคามรามเทพกำลังบูม แต่ตอนนี้ค่อนข้างเงียบเหงา มีแต่คนเล่นพระจริง ๆ ที่จะไปเดินดูกัน

สำหรับรายละเอียดแต่ละชั้นของห้างพันธ์ทิพย์พลาซ่า งามวงค์วาน ก็มีดังนี้

ชั้น 1 และชั้น 2 จะเป็นส่วนช้อปปิ้ง เช่นร้านแว่นตา ร้านหนังสือ แหล่งรวมแฟชั่นแบรนด์เนม มีท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ตแมคโครออฟฟิศซึ่งจำหน่ายสินค้าพวกเครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน เป็นแหล่งรวมร้านอาหารแบรนด์เนมดัง เช่น KFC, S&P, MC DONALD, OISHI, Mr. DONUT, BLACK CAYON, SANTA FE STEAK, NEO SUKI ร้านขนม Mr. BUN นอกจากนี้ ยังมีโซนโทรศัพท์มือถือ อยู่บริเวณชั้น 2 และน่าจะเป็นที่ขายมือถือใหญ่ที่สุดของจังหวัดนนทบุรีก็ว่าได้

ชั้น 3 จะมีประเภทงานพิมพ์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

ชั้น 4 เป็นช็อปแบรนด์และกลุ่มสินค้า จาก พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ไอที ซิตี้ ซึ่งเป็นซุปเปอร์สโตร์ด้านไอที , ซีเอสซี , ฮาร์ดแวร์ เฮ้าส์ , คอมเซเว่น , สยาม ซอฟท์เทค , นิวคลาสเซิล , คอมพิวแอนด์มอร์ , เมาส์ กรุ๊ป , ซอฟ์ทเวิลด์ , คิง อินเทลลิเจนท์ ฯลฯ เป็นศูนย์รวมของร้านขายส่งและปลีกคอมพิวเตอร์ ส่วน พื้นที่รอบข้างของชั้น 4 จะเป็นส่วนของร้านคอมพิวเตอร์ประกอบ

ชั้น 5 ก็จะเป็นโซน SME โซนเถ้าแก่น้อย เป็นแหล่งรวมศูนย์ซ่อมและพวกแอสเซสโซรี่ต่างๆ ก็หาซื้อได้ที่ชั้นนี้ ถ้าเดินจนหิวก็อาจจะหากินที่ชั้นนี้ได้เพราะมีศูนย์อาหาร

ชั้น 6 เป็นส่วนที่เรียกว่าตลาดนัดติดแอร์ จุดเด่นก็จะเป็นพวกสินค้ามือสอง ของเก่าของโบราณ พวกของสะสมต่างๆ โดยพื้นที่กว่า 8,000 ตารางเมตร ผู้ประกอบการกว่า 1,400 ร้านค้า โดยเฉพาะช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ คนจะแน่นมาก


ชั้น 7 จัดเป็นลานจอดรถส่วนขยายของศูนย์การค้า และในช่วงวันเสาร์ – อาทิตย์ จะทำเป็นตลาดนัดส่วนขยายจากชั้น 6 เนื่องจากวันเสาร์ – อาทิตย์ จะมีผู้มาใช้บริการแน่นมากจนต้องขยายพื้นที่ชั้น 7

ชั้น 8 เป็น Convention Hall เรียกว่า “NGAMWONGWAN CONVENTION HALL” สำหรับจัดงานกิจกรรมใหญ่ๆ งานที่ต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก งานไอทีต่างๆ และยังเปิดให้หน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชนสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ ได้ คล้ายกับเป็นลานอเนกประสงค์ สามารถจัดกิจกรรมใหญ่ๆ ได้ตลอดทั้งปี


สำหรับค่าเช่าสถานที่ของตลาดนัดติดแอร์ ผมไม่ค่อยแน่ใจซักเท่าไร เคยหยิบมาดูครั้งหนึ่งที่ประชาสัมพันธ์ของตลาดนัด(ชั้น 6) ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 300 บาทต่อวัน(ถ้าผิดก็ขออภัยด้วยครับ ถ้ามีโอกาสไปอีกครั้งจะสอบถามมาให้)

ถ้าใครที่สนใจอยากจะไปนั่งขายของแบบเย็นสบาย ก็ลองไปเดินสำรวจดูก่อนน๊ะครับว่าควรจะขายสินค้าประเภทไหน เพราะที่นี่มีร้านค้าค่อนข้างเยอะ ของที่เอามาวางขายก็เยอะไปหมด ถ้าเรามีสินค้าที่แปลกและเป็นต้องการของตลาด ผมว่าน่าสนน๊ะครับ

แผนที่ พันธ์ทิพย์พลาซ่า งามวงค์วาน ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี The Mall งามวงค์วาน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

มาทำหน้ากากอนามัยใช้เองกันเถอะ

วันเสาร์ที่ผ่านมาผมไปเดินเล่นที่เมเจอร์ปากเกร็ด ก็เดินดูอะไรไปเรื่อย ๆ คร่าเวลาเพื่อทำธุระเรื่องอื่น บังเอิญเดินไปตรงทางเข้าลานโบว์ลิ่งก็ไปเจอเอกสารเกี่ยวกับการทำหน้ากากอนามัย เห็นว่าเป็นประโยชน์ก็นำมาฝากกันครับเผื่อหลาย ๆ คนต้องซื้อใช้ และหลายคนอยากจะได้แบบลายที่ถูกใจดูอินเทรนด์หน่อยก็หาไม่มี อย่างนั้นก็ทำเองเลยซิครับ ผมว่าทำไม่น่ายาก ถ้าทำดี ดูดี ก็น่าจะทำขายได้น๊ะครับ

บ้านนี้มีรัก
ใช้หน้ากากอนามัย
เป็นสื่อบอกความห่วงใยกันและกัน

คุณรู้หรือไม่...

ผู้ที่ป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่จะมีเชื้อโรคอยู่ในละออกเสมหะ น้ำลาย และน้ำมูก เมื่อผู้ป่วยไอหรือจามเชื้อโรคจะแพร่กระจายได้ระยะ 1-5 เมตร ซ่งผู้ที่อยู่ใกล้ชิดโดยเฉพาะผู้อยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับผู้ป่วยจะมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่าย การสวมหน้ากากอนามัยจึงเป็นวิธีป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค

ดังนั้น หากเราต้องการให้คนที่เรารักปลอดภัยจากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจึงควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อป่วยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจเพื่อบอกความห่วงใยกับคนที่เรารัก...

"มาทำหน้ากากอนามัยใช้เองกันเถอะ"

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้...
1. กรรไกรตัดผ้า
2. ด้ายและเข็มเย็ยผ้า
3. ผ้าฝ้าย ผ้ายืด หรือผ้าสาลูเนื้อแน่น กว้าง 6 นิ้วครึ่ง ยาว 7 นิ้วครึ่ง จำนวน 2 ชิ้น
4. ยางยืด หรือไส้ไก่ สำหรับทำหู ความยาว 7 นิ้ว จำนวน 2 เส้น


วิธีการทำ...
  1. นำผ้าที่เตรียมไว้มาพับครึ่งตามความผ้า แล้วพับจับจีบทวิช ขนาด 1 นิ้ว ตรงกลางผ้ากลัดเข็มหมุดหรือเนาตรึงไว้ ทำอีกชิ้นเช่นเดียวกัน
  2. นำผ้าที่พับไว้ตามข้อ 1 มาวาง โดยหันด้านนอกขึ้น และนำยางยืดมาวางที่มุมผ้า ด้านกว้าง ข้างบน และข้างล่าง ด้านละ 1 เส้น กลัดเข็มหมุดหรือเนาตรึงไว้
  3. นำผ้าที่พับไว้อีกขึ้นมาวางซ้อนกับผ้าชิ้นแรกที่ตรึงยางยึดไว้ โดยหันผ้าด้านนอกชนกัน แล้วเย็บจักรหรือด้นถอยหลังรอบผ้าสี่เหลี่ยม ให้ห่างจากริมผ้าด้านละครึ่งเซนติเมตร โดยเว้นช่องว่างไว้กลับตะเข็บประมาณ 1 นิ้ว
  4. ขลิบผ้าตรงมุมทั้ง 4 มุมให้ใกล้กับรอยเย็บ (เพื่อเวลากลับตะเข็บจะได้เรียบร้อยสวยงาม) แล้วกลับตะเข็บตรงช่องที่เว้นไว้
  5. สอยปิดช่องที่เว้นไว้ให้เรียบร้อย
วิธีการทำไส้ไก่ (แทนยางยืด)
  1. ตัดผ้าเป็นชิ้นยาว 15-16 นิ้ว กว้าง 1 นิ้วครึ่ง จำนวน 4 เส้น
  2. พับริมผ้าเข้าหากันตามความกว้าง แล้วทบอีกครั้ง
  3. เย็บตามแนวยาวตลอด จนสุดผ้า
  4. นำผ้าที่ได้ทั้ง 4 เส้น มาเย็บติดมุมทั้ง 4 มุม แทนยางยืด
วิธีใช้หน้ากากอนามัย
  1. ล้างมือให้สะอาดก่อนสวมใส่หน้ากากอนามัย
  2. สวมหน้ากากอนามัยให้คลุมทั้งจมูกและปาก
  3. หน้ากากที่ทำด้วยกระดาษ ควรเปลี่ยนวันละครั้ง และทิ้งหน้ากากที่ใช้แล้วในถังขยะที่มีฝาปิด ส่วนหน้ากากที่ทำด้วยผ้า สามารถซักด้วยน้ำและผงซักฟอกตากแดดให้แห้งแล้วนำมาใช้ได้อีก
  4. หากหน้ากากชำรุดหรือเปรอะเปื้อนควรเปลี่ยนใช้อันใหม่
  5. เพื่อป้องกันโครให้ได้ผล นอกจากใช้หน้ากากอนามัยแล้วควรหมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการไอ จาม หรือสั่งน้ำมูก


ที่มา : เอกสารจาก สำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค
http://beid.ddc.moph.go.th/
โทร. 0 2590 3167 , 0 2590 3194

Tuesday, August 11, 2009

ส่งเงินสมทบประกันสังคมงวดที่ 3 จำนวนเงิน 240 บาท

สำหรับเงินสมทบประกันสังคมงวดนี้จนครบกำหนด 6 เดือนข้างหน้า จะลดเงินสมทบลงมาเหลือ 240 ต่อเดือน วันนี้ผมก็ไปก่อนที่ประกันสังคมจะเปิด เวลาทำการของประกันสังคมคือ 8:30 แต่ผมไปถึงประมาณ 8:10 ความจริงแล้วก็ไม่ได้อยากไปก่อนที่เขาจะเปิดทำการ แต่รู้สึกแปลกใจว่าทำไมวันนี้ถนนถึงโล่งมากจนไปถึงเร็วกว่าที่คาดหมายเอาไว้

การรอคอยเพียง 20 นาทีสำหรับผมถือว่าเป็นการรอคอยที่ค่อนข้างนาน เพราะฉะันั้นก็ต้องหาอะไรทำ เดินแว๊ะไปเวียนมาก็ไปเจอร้านขายน้ำประเภทชา, กาแฟ ร้อน/เย็น ผมก็เลยเดินเข้าไปสั่งกาแฟเย็นซักหน่อย ถ้าใส่ถุงคิด 12 บาท ใส่แก้วพลาสติกคือ 15 บาท ก็เลยนึกสงสัยว่า ราคาแก้วพลาสติกนี่มัน 3 บาทเลยเหรอ หรือว่าคิดค่าอื่น ๆ รวมไปด้วย เช่น เสียเวลาปิดฝา และต้องออกแรงกระแทกหลอดที่บนฝา มันก็เลยราคาเพิ่มเป็น 3 บาท ผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าราคาแก้วมันเป็นเท่าไร แต่ก็ไม่น่าจะถึง 3 บาท น่าจะประมาณบาทกว่า ๆ หรือประมาณหนึ่งบาทเท่านั้น แต่ก็ช่างมันเถอะ ว่าเลยก็ให้แบ้งค์ยี่สิบเก่า ๆ มีข้อความเขียนว่า "เงินก้นถุง" ก็น่าจะใช่เพราะเก่ามากและคงเก็บไว้ก้นถุงนานกว่าจะไ้ด้นำออกมาใช้

หลังจากดูดกาแฟไปซักระยะหนึ่ง ก็เห็นคนที่กำลังรอเวลาเปิดทำการอยู่เข้าแถวอยู่ประมาณ 10 กว่าคน เจ้าหน้าที่ก็นำเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิออกมายิงที่หน้าผากทุกคนว่าเกิด 37.5 องศาหรือเปล่า ถ้าไม่ ก็จะได้สติกเกอร์ทรงกลมสีชมพู(เป็นสีประจำวันพุธ ถ้าวันอื่นก็เป็นสีประจำวันนั้น) ติดให้กับทุก ๆ คนที่ต้องการเข้าไปใช้บริการ เดือนก่อนที่ผมไปติดต่อประกันสังคมก็ยังไม่เห็นมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าเลยซักนิด ใครคิดอยากจะเดินเข้าเดินออกก็ทำได้ง่าย ๆ แต่ตอนนี้ไม่ได้ซ่ะแล้ว ก็เลยนึกสงสัยเกี่ยวกับสถานะการณ์การระบาดของไข้หวัดสายพันธ์ใหม่ 2009 ว่าเป็นอย่างไร ผมว่าน่าจะระบาดกันค่อนข้างเยอะและก็ยังควบคุมไม่ได้ในตอนนี้ ก็คงจะทำอะไรไม่ได้ ต่างคนต่างก็หาทางป้องกันกันเองก็เท่านั้น ชีวิตใครคนนั้นก็ต้องระมัดระวังกันเอาเอง ถ้าดวงซวยไปติดไข้หวัด 2009 ก็คงต้องยอมรับความเป็นไป

8:30 ประตูเปิด ทุก ๆ คนรู้ตำแหน่งที่ตนเองต้องการจะไป ผมก็ต้องไปกดบัตรคิวเพื่อรอจ่ายเงิน ได้คิวที่ 9 ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็เป็นอันเสร็จพิธี แล้วก็รีบจ้ำอ้าวออกมาอย่างรวดเร็วเพื่อทำภาระกิจอื่ืนต่อไป

Friday, August 7, 2009

โครงการต้นกล้าอาชีพ

"โครงการต้นกล้าอาชีพ คือโครงการของรัฐบาลเพื่อการพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงาน เพื่อสนับสนุนผู้ว่างงานและผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ ให้มีโอกาสมีงานทำมากขึ้น โดยผู้ผ่านการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ ความสามารถกลับไปทำงานในท้องถิ่นบ้านเกิดของตัวเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการขับเคลื่อน และพัฒนาศักยภาพของชุมชนตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมให้ประชาชนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ในระยะยาว เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกด้วย"

จากการอ่านบทคัดย่อของโครงการแล้วก็นับว่าเป็นความคิดที่ดีที่จะให้คนกลับไปใช้ความรู้ความสามารถในบ้านเกิดของตนเอง ถ้าโครงการนี้เป็นจริงและทำกันอย่างจริงจัง ความเจริญทางเศรษฐกิจก็จะถูกกระจายไปยังท้องถิ่นอย่างแน่นอน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการกระจายความเจริญไปยังท้องถิ่น ยกตัวอย่างเช่น การศึกษา, ภาคอุตสาหกรรม, การขนส่ง ฯลฯ เนื่องจากความเจริญที่เกิดขึ้นในประเทศไทยจะอยู่ที่หัวเมืองใหญ่ ๆ เท่านั้น โดยเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑลซึ่งมีความเจริญเป็นที่สุดในทุก ๆ ด้านของการพัฒนา อย่างแรกก็คือ การศึกษา ผมก็เช่นเดียวกันที่เป็นคนต่างจังหวัดและต้องมาศึกษาในกทม.เป็นระยะเวลา 7 ปี เพราะฉะนั้น ความรู้สึกคุ้นเคยกับบ้านเกิดคงจะน้อยลง การที่จะใช้ความรู้ความสามารถกลับไปพัฒนาบ้านเกิดก็คงน้อยลงเช่นกัน เนื่องจากจากบ้านมานานและงานที่ต่างจังหวัดก็คงไม่มีในสาขาที่ผมเรียนมาในระยะเวลานั้น จนถึงในช่วงนี้ งานในบางสาขาวิชาก็ไม่สามารถหาได้ที่ต่างจังหวัด

อย่างไรก็ตาม ในความคิดของผมก็ถือว่า โครงการต้นกล้าอาชีพนี้ก็ยังเป็นโครงการที่ดีอยู่ดี แต่การประชาสัมพันธ์อาจจะยังไม่ทั่วถึง ผมเองก็ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวซักเท่าไร แต่มาติดตามอีกทีก็จะถึงเวลาลงทะเบียนครั้งสุดท้ายของโครงการแล้วซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 18 - 31 สิงหาคม 2552 ตามรายละเอียดดังนี้

๑๘-๒๔ สค 2552 จัดให้มีการลงทะเบียนรับสมัคร (Key in) ทั่วประเทศ ๗ วัน
๒๕ สค 2552 คัดเลือกผู้เข้าฝึกอบรมโดยวิธีสุ่ม
๒๖ สค 2552 ประกาศรายชื่อผู้เข้าฝึกอบรม (พร้อมชื่อผู้สำรอง) ทาง e-mail, internet, SMS และประกาศติดที่สถานที่ฝึกอบรมและสถานที่ราชการที่เกี่ยวข้อง
๒๗-๒๙ สค 2552 ผู้ฝึกอบรมรายงานตัวที่สถานที่ฝึกพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน
๓๐ สค 2552 ประกาศรายชื่อให้ผู้ได้สำรองไปรายงานตัว
๓๐-๓๑ สค 2552 ผู้ได้สำรองรายงานตัวที่สถานที่ฝึกพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน
๑ กย 2552 เริ่มฝึกอบรม

กลุ่มเป้าหมาย
  1. ผู้ว่างงานสนใจฝึกอบรมอาชีพ รวมทั้งประชาชนผู้สนใจเข้ารับการอบรมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อนำความรู้กลับไปใช้ในหมู่บ้านชุมชนท้องถิ่น
  2. ผู้ที่กำลังอยู่ในข่ายจะถูกเลิกจ้างงาน และภาคธุรกิจต้องการให้เพิ่มทักษะโดยมีข้อตกลงให้ทำงานต่อหลังการฝึกอบรม
  3. ผู้ถูกเลิกจ้างแรงงานจากภาคอุตสาหกรรมและประสงค์จะเพิ่มพูนทักษะมากขึ้นและหลากหลาย เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงานของตนเอง
  4. ผู้สำเร็จการศึกษา ให้มีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับการฝึกอบรมจะได้ผลประโยชน์ดังนี้
  • ค่าเบี้ยเลี้ยงระหว่างการอบรม ๔,๘๐๐ บาท/คน/เดือนโดยเฉลี่ย จ่ายตามวันที่เข้าอบรมจริง จำนวน ๑๖๐ บาท/คน/วัน โดยผู้เข้าอบรมแต่ละคนต้องแสดงหลักฐานการรับเงินรายบุคคล
  • ค่าพาหนะเดินทางระหว่างการอบรม ๗๒๐ บาท/คน/เดือน โดยเฉลี่ยจ่ายตามวันที่เข้าอบรมจริง จำนวน ๓๐ บาท/คน/วันโดยผู้เข้าอบรมแต่ละคนต้องแสดงหลักฐานการรับเงินรายบุคคล
  • ค่าพาหนะเดินทางมาเข้ารับการฝึกอบรมครั้งแรก ในอัตราเหมาจ่าย ๑,๐๐๐ บาท/คน
ในกรณีที่ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีความประสงค์จะกลับไปประกอบอาชีพที่บ้านเกิดจะได้รับผลประโยชน์ดังนี้
  • เงินอุดหนุนเพื่อการประกอบอาชีพ จำนวน ๔,๘๐๐ บาท/คน/เดือน เป็นเวลาไม่เกิน ๓ เดือน ทั้งนี้ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารฯ
  • ค่าพาหนะเดินทางกลับภูมิลำเนา เหมาจ่ายในอัตรา ๑,๐๐๐ บาท/คน ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารฯ และจะได้รับเงินค่าพาหนะเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมกับเงินอุดหนุนเพื่อการประกอบอาชีพในเดือนแรก โดยการรับรองการกลับไปทำงานในภูมิลำเนาจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ (กำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน หรือประธานชุมชน และนายอำเภอ หรือผู้อำนวยการเขต หรือนายกเทศมนตรี หรือนายกเมืองพัทยา แล้วแต่กรณี)

 

© 2013 คนตกงาน. All rights resevered. Designed by Templateism

Back To Top